The Thai Journal of Veterinary Medicine
Abstract
ทําการผ่าท้องเอาลูกออกในควายปลัก 2 รายเนื่องจากคลอดยาก รายแรกเป็นควายสาวอายุประมาณ 4 ขวบ ได้รับการผสมตามธรรมชาติ เริ่มเบ่งคลอดเมื่อ ประมาณเช้าตรู่ของวันที่ 7 กันยายน 2523 ตลอดจนวันนั้นเจ้าของพยายามช่วยแต่ไม่ สำเร็จ จึงไปติดต่อผู้ช่วยและหัวหน้าสถานีผสมเทียม จ.อยุธยา เพื่อให้ผู้เขียนไปช่วย แก้ไขในวันรุ่งขึ้น ควายอยู่ในท่า (lateral recumbency) บริเวณปากช่องคลอดบวมมาก มีรอยฉีกขาดและเนื้อตายเป็นบางแห่ง จากการตรวจพบว่าลูกตายอยู่ในท่า dorsal longitudinal posterior presentation with flexion of both hind legs ในปีกมดลูกข้างขวาได้ให้ยาชาเข้าไขสันหลังและยากล่อมประสาท เพื่อให้ กล้ามเนื้อหย่อนตัวแล้วพยายามช่วยแก้ไขท่าคลอดแต่ไม่ได้ผลเพราะลูกเกิดสภาพเนื้อพองลม จึงตัดสินใจทําการผ่าท้องเอาลูกออก โดยเตรียมบริเวณผ่าตัดตรงสวาปด้านซ้าย ฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณผิวหนังและกล้ามเนื้อขึ้นต่าง ๆ ที่จะเปิดผ่าเนื่องจากไม่สามารถ ดึงมดลูกออกนอกช่องท้องได้จึงผ่าปักมดลูกด้านที่ท้องในช่องท้อง พยายามดึงลูกออกแต่ไม่สำเร็จ ได้ตัดตัวลูกออกเป็นส่วนย่อย ลูกควายหนักประมาณ 35 กิโลกรัม เย็บปิดแผล และให้การรักษาแต่แม่ควายในวันรุ่งขึ้น รายที่สองเป็นแม่ควายเผือกอายุมากกว่า 10 ปี หนักประมาณ 350 กิโลกรัม ท้องลูกตัวที่ 7 ประวัติไม่เคยมีปัญหาการคลอดยาก เช้าวันที่ 13 กันยายน 2523 เจ้าของเห็นควายคลอดลูกมีขาโผล่ออกมา 1 คู่ แม่ควายเบ่งจนใกล้เที่ยงลูก ก็ยังไม่ออก จึงนำควายตัวนี้มาที่ ศย กรป.กลาง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เขียนได้ทําการตรวจพบว่าลูกควายตายอยู่ในท่า dorsal longitudinal anterior presentation with deviation of the head and neck to the right ในปีกมดลูกข้างขวา ได้ให้ยาชาเฉพาะที่เข้าไขสันหลังช่วยแก้ท่าแต่ไม่สำเร็จ แม้พยายามตัดตัวลูกเป็นส่วนย่อยก็ไม่ได้เพราะไม่สามารถผ่านลวดเข้าไปได้เลย จึงผ่าท้องเอาลูกออกใช้วิธีการเช่นเดียวกับรายแรก ใช้โซ่ดึงลูกออก ลูกหนักประมาณ 30 กก. ขณะปฏิบัติงานและหลังการผ่าตัดอีก 12 วันได้ให้ supportive treatment, ยาปฏิชีวนะ และ glucocorticoid แผลผ่าตัดและสัตว์ป่วยหายเป็นปกติ
DOI
10.56808/2985-1130.1293
First Page
214
Last Page
224
Recommended Citation
จันทร์ประทีป, พีระศักดิ์; โลหชิต, ชัยณรงค์; and โพธิปักษ์, ประสิทธิ์
(1981)
"รายงานสัตว์ป่วย: 1. การผ่าท้องเอาลูกออกในควายปลัก,"
The Thai Journal of Veterinary Medicine: Vol. 11:
Iss.
3, Article 5.
DOI: https://doi.org/10.56808/2985-1130.1293
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/tjvm/vol11/iss3/5