Journal of Nursing Research, Innovation, and Health
Publication Date
2019-01-01
Abstract
Purpose: To study demographic characteristics, smoking behaviors, differentiation between gender and smoking behaviors and quit rate among smokers calling Thailand National Quitline (TNQ)Design: Quasi-experimental studyMethods: The 650 smokers who called TNQ during September 2016 to February 2017 were voluntary assigned into three interventions; 1) text to quit (n=143), 2) telephone counseling (n=121), and 3) text to quit and telephone counseling (n=386), and set quit date within next 30 days. Data collection was done by telephone interviewing. Descriptive analysis for the demographic data indicated that most of subjects were male (85.85%), 25-44 years old (43.38%), smoked 11-20 cigarettes per day (55.69%). Data were analyzed with descriptive statistics, independent t-test and chi-square.Results: The findings of this study emphasize that men and women smokers had a significant difference of average score of being nicotine dependent (t=-2.22, p-value=.027). However, there were no statistically significant differences in continuous abstinence rate at 7 days, 30 days, 3 and 6 months of both sexes.Conclusions: The results revealed that TNQ services were effective for helping smokers to attain quitting smoking and suitable in both male and female. Consequently, there is not necessary for a gender-specific smoking cessation intervention.(วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาลักษณะทั่วไป พฤติกรรมการสูบบุหรี่ ความแตกต่างระหว่างเพศกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่และอัตราการเลิกบุหรี่ ของผู้ใช้บริการเลิกบุหรี่จากศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ ด้วยรูปแบบบริการ 1) ข้อความสั้น 2) รับคำปรึกษาทางโทรศัพท์ และ 3) ข้อความสั้นร่วมกับรับคำปรึกษาทางโทรศัพท์รูปแบบการวิจัย: การวิจัยกึ่งทดลองวิธีดำเนินการวิจัย: ผู้ใช้บริการเลิกบุหรี่ของศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ ตั้งแต่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559 ถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 รวมจำนวน 650 คน เลือกรับบริการเลิกบุหรี่ตามความสมัครใจ ได้แก่ บริการเลิกบุหรี่ด้วยข้อความสั้น จำนวน 143 คน, บริการเลิกบุหรี่ด้วยการรับคำปรึกษาทางโทรศัพท์ จำนวน 121 คน, และบริการเลิกบุหรี่ด้วยข้อความสั้นร่วมกับการรับคำปรึกษาทางโทรศัพท์ จำนวน 386 คน มีกำหนดวันเลิกบุหรี่ภายใน 30 วันข้างหน้า เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 85.85) อายุ 25-44 ปี (ร้อยละ 43.38) ครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่าง (ร้อยละ 55.69) สูบบุหรี่วันละ 11-20 มวน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การทดสอบค่าทีแบบอิสระ และสถิติทดสอบไคสแควร์ผลการวิจัย: ค่าเฉลี่ยคะแนนการติดนิโคตินในกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างเพศชาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t=-2.22, p-value=.027) อย่างไรก็ตาม อัตราการเลิกบุหรี่ที่ระยะเวลา 7 วัน 30 วัน 3 เดือน และ 6 เดือน ทั้งเพศชายและเพศหญิงไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติสรุป: ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าบริการเลิกบุหรี่ของศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติมีประสิทธิผลเหมาะสมทั้งเพศชายและเพศหญิง จึงไม่มีความจำเป็นต้องออกแบบหรือพัฒนาบริการที่เฉพาะเจาะจงกับเพศ)
DOI
10.58837/CHULA.CUNS.31.1.1
First Page
1
Last Page
14
Recommended Citation
Rojnawee, Suwimon; Yunibhand, Jintana; and Khongtor, Orrawan
(2019)
"Effectiveness of Thailand National Quitline Services: A Gender Analysis(ผลของบริการเลิกบุหรี่ของศูนย์บริทารเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ : การวิเคราะห์แยกเพศ),"
Journal of Nursing Research, Innovation, and Health: Vol. 31:
Iss.
1, Article 1.
DOI: 10.58837/CHULA.CUNS.31.1.1
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/cuns/vol31/iss1/1