Journal of Nursing Research, Innovation, and Health
Publication Date
2005-01-01
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล พลังวิชาชีพพยาบาล ความเชื่ออำนาจภายในตนกับความผูกพันในวิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไป กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลทั่วไปจํานวน 389 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามจำนวน 1 ชุด แบ่งเป็น 4 ตอน คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพลังวิชาชีพพยาบาล แบบสอบถามความเชื่ออำนาจภายในตนและแบบสอบถามความผูกพันใน วิชาชีพ ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาและหาค่าความเที่ยงของแบบสอบถามโดยสูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่า ของครอนบาคได้ 83 86 และ 85 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์การจรณ์ และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน \nผลการวิจัยมีดังนี้ (1) ความผูกพันในวิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไปอยู่ในระดับ มาก (X = 3.71 S.D. = 43) (2) พลังวิชาชีพพยาบาลและความเชื่ออำนาจภายในตนของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไปอยู่ในระดับมาก (X = 3.53 S.D. = 40, = 3.95 S.D. = 37 ตามลำดับ) (3) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุและประสบการณ์การทำงานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความผูกพันในวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ.05 (r = 13 และ 12 ตามลำดับ) แต่ระดับการศึกษาและสถานภาพสมรสไม่มีความสัมพันธ์ กับความผูกพันในวิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไป (4) พลังวิชาชีพพยาบาลและความเชื่อ อำนาจภายในตนมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความผูกพันในวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 \n(r = . 50 และ .61 ตามลำดับ)
DOI
10.58837/CHULA.CUNS.17.1.8
First Page
79
Last Page
90
Recommended Citation
บุญศิลป์, สุนีย์รัตน์ and รัชชกูล, สุชาดา
(2005)
"ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล พลังวิชาชีพพยาบาล ความเชื่ออำนาจภายในตนกับความผูกพันในวิชาชีพของ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลทั่วไป (Relationships Between Personal Factors, Nursing Career Vitality, Internal Locus of Control, and Career Commitment of Professional Nurses, General Hospitals),"
Journal of Nursing Research, Innovation, and Health: Vol. 17:
Iss.
1, Article 8.
DOI: 10.58837/CHULA.CUNS.17.1.8
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/cuns/vol17/iss1/8