Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ในครอบครัว พฤติกรรมการสื่อสารและรูปแบบการสื่อสารในครอบครัวของโสเภณีชาย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Family relationships communication behavior and family communication patterns of male prostitutes

Year (A.D.)

1989

Document Type

Thesis

First Advisor

ยุบล เบ็ญจรงค์กิจ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การประชาสัมพันธ์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1989.376

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาปัจจัยทางประชากรศาสตร์ ความสัมพันธ์ในครอบครัว พฤติกรรมการสื่อสาร รูปแบบการสื่อสารในครอบครัว และลักษณะเฉพาะของโสเภณีชาย เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยทางประชากรศาสตร์ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และรูปแบบการสื่อสารในครอบครัวระหว่างกลุ่มโสเภณีชายและกลุ่มชายที่ประกอบอาชีพอื่น และเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการสื่อสารในครอบครัว กับการประกอบอาชีพโสเภณีชาย กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ กลุ่มโสเภณีชายที่ทำงานเป็นพนักงานในสถานบริการ เฉพาะกลุ่มรักร่วมเพศในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 100 คน และกลุ่มชายที่ประกอบอาชีพอื่น ยกเว้นอาชีพโสเภณี บริเวณย่านพัฒน์พงศ์ในเวลากลางคืน จำนวน 100 คน เท่ากัน ผลการวิจัยพบว่า การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มในด้านปัจจัยทางประชากรศาสตร์กลุ่มโสเภณีชายและกลุ่มชายที่ประกอบอาชีพอื่น มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เฉพาะในด้านภูมิลำเนา ระดับการศึกษา บุคคลที่อาศัยอยู่ด้วย รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระดับการศึกษาของมารดา และอาชีพของมารดา การเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มในด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยแบ่งออกเป็นความสัมพันธ์กับบิดามารดา ความสัมพันธ์กับพี่น้อง และความสัมพันธ์กับครอบครัวโดยรวม ในด้านความสัมพันธ์กับบิดามารดาพบว่า ทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เฉพาะในด้านความรู้สึกเวลาที่บิดามารดามีเรื่องไม่เข้าใจกันหรือทะเลาะกัน การแสดงออกเวลามีเรื่องขัดแย้งกับบิดามารดา และความต้องการเวลาคุยหรือใกล้ชิดกับบิดามารดา ในด้านความสัมพันธ์กับพี่น้องทั้ง 2 กลุ่ม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในด้านความสนิทสนมและเห็นอกเห็นใจกันกับพี่น้องเท่านั้น และในด้านความสัมพันธ์กับครอบครัวโดยรวม ทั้ง 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ในด้านความคิดเห็นที่ต่อสภาพครอบครัวโดยรวม ในการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มในด้านรูปแบบการสื่อสารในครอบครัว พบว่าทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกันและจากการศึกษาพบว่า รูปแบบการสื่อสารในครอบครัวไม่มีความสัมพันธ์กับการประกอบอาชีพโสเภณีชาย

Share

COinS