Applied Environmental Research
Publication Date
2002-07-01
Abstract
การวิจัยนี้เพื่อศึกษาความสามารถในการดูดติดผิวตะกั่วในน้ำเสียสังเคราะห์โดยใช้ถ่านกัมมันต์ จากเปลือกทุเรียนและเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ผ่านกระบวนการกระตุ้นทางเคมีโดยใช้เกลือแกง (NaCI) การทดลองแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขั้นแรกเป็นการเตรียมถ่านกัมมันต์ ศึกษาลักษณะทางกายภาพ และประสิทธิภาพของถ่านกัมมันต์ การทดลองพบว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมที่ใช้ในการเผาวัตถุดิบให้เป็นถ่านพร้อมกับการกระตุ้นคือ 800 องศาเซลเซียส และผลของตัวกระตุ้นพบว่า การแช่วัตถุดิบด้วยสารละลายเกลือแกงอิ่มตัวเป็นเวลา 24 ชั่วโมง นำไปอบแห้ง แล้วนำมาทำการเผาและกระตุ้นก็เพียงพอ ที่จะทำให้ได้ถ่านกัมมันต์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยถ่านเปลือกทุเรียนและถ่านเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะมีค่าไอโอดีน นัมเบอร์สูงที่สุดเท่ากับ 567 และ 532 มิลลิกรัมของไอโอดีนต่อกรัมของถ่านกัมมันต์ตามลำดับ
ขั้นตอนที่สองคือการทำการทดลองแบบไม่ต่อเนื่องเพื่อศึกษาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการดูดติดผิวตะกั่ว จากการศึกษาพบว่า การดูดติดผิวตะกั่วจะเพิ่มขึ้นเมื่อพีเอชของน้ำเสียเพิ่มขึ้น และที่พีเอชของน้ำเสียเริ่มต้นตั้งแต่ 4 ขึ้นไป พบว่า ประสิทธิภาพในการกำจัดตะกั่วออกจากน้ำเสียสูงกว่า 90% ทั้งนี้เนื่องจากเกิดการดูดติดผิวบนถ่านกัมมันต์ร่วมกับการตกตะกอนของตะกั่ว ผลของเวลาสัมผัสพบว่า สมดุลของการดูดติดผิวสำหรับถ่านทั้งสองชนิดคือ 10 นาที ผลของการ หาไอโซเทอมการดูดติดผิวแบบฟรุนดิช แสดงให้เห็นว่าถ่านเปลือกทุเรียนมีความสามารถในการดูดติดผิวสูงกว่าถ่านเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ขั้นตอนสุดท้ายคือการทดลองแบบต่อเนื่องโดยใช้ถังดูดติดผิวแบบแท่งเพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้งานของถ่าน การทดลองแบบต่อเนื่องได้เลือกใช้ถ่านเปลือกทุเรียน เมื่อทำการป้อนน้ำเสียแบบไหลลงอย่างต่อเนื่อง และทำการเก็บน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดทางปลายแท่ง จนกระทั้งถ่านหมดประสิทธิภาพในการดูดติดผิว พบว่า ถ่านเปลือกทุเรียนที่ขั้น ความสูง 30, 60, 90 และ 120 เซนติเมตรสามารถบำบัดนี้าเสียได้ 94.01, 58.85, 50.98 และ 47.06 BV ตามลำดับ
First Page
1
Last Page
12
Recommended Citation
ศรีสถิตย์, ธเรศ and นิทัศนจารุกุล, ลลิดา
(2002)
"การกำจัดตะกั่วจากน้ำเสียสังเคราะห์ด้วยกระบวนการดูดติดผิว โดยใช้ถ่านกัมมันต์ผลิตจากเปลือกผลไม้,"
Applied Environmental Research: Vol. 24:
No.
2, Article 1.
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/aer/vol24/iss2/1