Chulalongkorn University Dental Journal
Publication Date
2005-09-01
Abstract
วัตถุประสงค์ ศึกษาอิทธิพลของรสและอุณหภูมิของเครื่องดื่มชาเขียวต่ออัตราการไหลของน้ําลาย วัสดุและวิธีการ อาสาสมัครจํานวน 30 คน อายุ 20-22 ปี มีสุขภาพสมบูรณ์และไม่ใช้ยาทุกชนิดอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนเข้ารับการทดลอง ในวันแรก ทําการเก็บน้ําลายในระยะควบคุม โดยให้อาสาสมัครนั่งก้มหน้า ปล่อยน้ําลายให้ ไหลลงในภาชนะเป็นเวลา 10 นาที ในวันที่สองถึงเจ็ต ให้อาสาสมัครดื่มน้ําปราศจากแร่ธาตุ หรือเครื่องดื่มชาเขียว ที่มีอุณหภูมิ 5, 30 หรือ 50 องศาเซลเซียส ชนิดละ 300 มิลลิลิตร ตามลําดับ โดยใช้หลอดดูด แล้วเก็บน้ําลายใน ระยะทดลอง ด้วยวิธีการเติมเป็นเวลา 10 นาที คํานวณอัตราการไหลของน้ําลายทุกระยะเป็นมิลลิลิตร/นาที เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของอัตราการไหลของน้ําลายในระยะควบคุม หลังดื่มน้ํา กับหลังดื่มชาเขียว ที่อุณหภูมิต่างๆ ด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 หากพบมีนัยสําคัญจึงทดสอบหาคู่ ผลการศึกษา ค่าเฉลี่ยอัตราการไหลของน้ําลายระยะควบคุม เท่ากับ 0.47±0.27 มิลลิลิตร/นาที หลังการดื่มน้ําและ ชาเขียวที่มีอุณหภูมิ 5, 30 และ 50 องศาเซลเซียส เท่ากับ 0.67±0.25, 0.48±0.26, 0.51±0.24, 0.75±0.28, 0.56±0.32 และ 0.60±0.30 มิลลิลิตร/นาที ตามลําดับ อัตราการไหลของน้ําลายหลังดื่มน้ําที่มีอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสสูงกว่า อัตราการไหลของน้ําลายในระยะควบคุมและหลังดื่มน้ําที่มีอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P < .05) แต่ไม่แตกต่างจากภายหลังดื่มน้ําที่มีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ นอกจากนี้ อัตราการไหลของน้ําสายหลังดื่มน้ําที่มีอุณหภูมิ 30 และ 50 องศาเซลเซียส ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติด้วย สําหรับอัตราการไหลของน้ําลายหลังดื่มชาเขียวที่มีอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส พบว่า สูงกว่าอัตราการไหลของ น้ําลายในระยะควบคุม และหลังดื่มชาเขียวที่มีอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) และอัตราการไหลของน้ําลายหลังดื่มชาเขียวที่มีอุณหภูมิ 30 และ 50 องศาเซลเซียสแตกต่างกันน้อยมากจนไม่ ปรากฏนัยสําคัญทางสถิติ เช่นเดียวกับผลการทดลองที่ได้จากการดื่มน้ํา อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบอัตราการ ไหลของน้ําลายหลังดื่มชาเขียวและหลังดื่มน้ําที่มีอุณหภูมิเท่ากัน พบว่า อัตราการไหลของน้ําลายหลังดื่มชาเขียว สูงกว่าหลังดื่มน้ําอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติทุกอุณหภูมิ (p < .05) ที่มีความแตกต่างกันทีละคู่ด้วยวิธีผลต่างอย่างมีนัยสําคัญน้อยที่สุดสรุป รสของเครื่องดื่มชาเขียวสามารถกระตุ้นให้น้ําลายมีอัตราไหลเพิ่มขึ้น และขาเขียวชนิดเป็นกระตุ้นให้น้ําลายมีอัตราไหลเพิ่มขึ้นได้มากกว่าชาเขียวชนิดร้อน
DOI
10.58837/CHULA.CUDJ.28.3.4
First Page
221
Last Page
228
Recommended Citation
ปัญญางาม, ระวีวรรณ and ปฏิมานุเกษม, พรศรี
(2005)
"อิทธิพลของรสและอุณหภูมิของเครื่องดื่มชาเขียว ต่ออัตราการไหลของน้ําลาย,"
Chulalongkorn University Dental Journal: Vol. 28:
Iss.
3, Article 4.
DOI: 10.58837/CHULA.CUDJ.28.3.4
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/cudj/vol28/iss3/4