Chulalongkorn University Dental Journal
Publication Date
1999-07-01
Abstract
วัตถุประสงค์ การวิจัยครั้งนี้ทําขึ้นเพื่อหาสมการที่เหมาะสมสําหรับคนไทยในการทํานายความกว้างของฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่ง และฟันกรามน้อยซี่ที่สอง ซึ่งเป็นกลุ่มพื้นที่ขึ้นช้าที่สุดในช่องปาก วัสดุและวิธีการ โดยการวัดขนาดฟันทุกซี่จากแบบจําลองฟันของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไทย 400 ราย ที่มีอายุใน ช่วง 13-15 ปี เป็นชายและหญิง อย่างละเท่าๆ กัน หาค่าเฉลี่ย, ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความกว้างมากที่สุด และน้อยที่สุดของฟันแต่ละซี่ รวมทั้งหาความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของฟันกับกลุ่มของฟันที่เลือกไว้ โดยใช้สัมประสิทธิสหสัมพันธ์ของเปียร์สัน ผลการวิจัยและสรุป พบว่าค่าสัมประสิทธิ์ของผลรวมความกว้างของฟันเขี้ยว และฟันกรามน้อยทั้งสองซี่ มีความ สัมพันธ์กับความกว้างของฟันกรามแท้ซี่แรกที่อยู่ในขากรรไกรเดียวกันมากที่สุด โดยมีค่าเป็น 0.674 ในเพศชาย, 0.659 ในเพศหญิง และ 0.692 ในกลุ่มรวมสําหรับขากรรไกรบน ส่วนขากรรไกรล่างมีค่าเป็น 0.647, ในเพศชาย 0.673 ในเพศหญิง และ 0.694 ในกลุ่มรวม สําหรับความสัมพันธ์ที่มีต่อกลุ่มฟันหน้าของขากรรไกรเดียวกันจะมีค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ลดลงมาเล็กน้อยเป็น 0.664 ในขากรรไกรบน และ 0.616 ในขากรรไกรล่างของเพศชาย 0.626 ในขากรรไกรบน และ 0.641 ในขากรรไกรล่างของเพศหญิงมีค่า 0.670 ในขากรรไกรบน และ 0.650 ใน ขากรรไกรล่าง ของกลุ่มรวมเพศ การทํานายผลรวมความกว้างของฟันเขี้ยวและฟันกรามน้อยทั้งสองซี่ จึงเลือกใช้ ค่าความกว้างของฟันกรามแท้ซี่แรกมาสร้างเป็นสมการถดถอยอย่างง่ายในรูปของ y = a + bx เมื่อ y ความกว้างของฟันเขี้ยวและฟันกรามน้อยทั้งสองซี่บนหรือล่าง, X = ความกว้างเฉลี่ยของฟันกรามแท้ซี่แรกบนหรือ ล่าง ส่วนค่าของ a และ b ในขากรรไกรบนเป็น 7.26 และ 1.47 สําหรับเพศชาย, 9.86 และ 1.20 สําหรับเพศ หญิง, 8.19 และ 1.37 สําหรับกลุ่มรวม ในขากรรไกรล่าง มีค่าเป็น 6.7 และ 1.34 สําหรับเพศชาย, 7.90 และ 1.20 สําหรับเพศหญิง, 6.05 และ 1.38 สําหรับกลุ่มรวม y = ผลรวม
DOI
10.58837/CHULA.CUDJ.22.3.7
First Page
167
Last Page
175
Recommended Citation
เพชรคุปต์, วัชระ and อภิวัฒนกุล, ปิยารัตน์
(1999)
"การทํานายผลรวมความกว้างของฟันเขี้ยวและฟันกรามน้อยซี่ที่สองฟันกรามน้อยซี่ที่หนึ่ง จากเด็กไทยอายุ 13-15 ปี,"
Chulalongkorn University Dental Journal: Vol. 22:
Iss.
3, Article 7.
DOI: 10.58837/CHULA.CUDJ.22.3.7
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/cudj/vol22/iss3/7