Chulalongkorn University Dental Journal
Publication Date
1999-07-01
Abstract
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของซีเมีย เลเยอะ smear layer) ต่อการเปลี่ยนแปลงของ พีเอช (pH) ในท่อเนื้อฟันที่บริเวณ 4 มิลลิเมตร จากปลายรากและลึก 1 มิลลิเมตรจากผิวของรากฟัน วัสดุและวิธีการ ฟันมนุษย์รากเดียวจํานวน 22 ปี ทําการขยายคลองรากฟันด้วยเคไฟล์ (K-file) จนเอ็มเอเอฟไฟล์ (MAF) ขนาด 40 แบ่งฟันออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 11 ซี่ โดยกลุ่มที่ 1 ไม่จํากัดซีเมีย เลเออะ โดยล้างคลอง รากฟันสุดท้ายด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Soldiumhypochlorite) 5.25% 20 มิลลิเมตร และน้ํากลั่น 5 มิลลิเมตร กลุ่มที่ 2 กําจัดซีเมีย เลเยอะ โดยล้างคลองรากฟันสุดท้ายด้วยอีดีทีเอ (EDTA) 17% 10 มิลลิเมตร โซเดียม ไฮโปคลอไรด์ 5.25% 10 มิลลิเมตร และน้ํากลั่น 5 มิลลิเมตร นํากลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม เคลือบยาทาเล็บ 2 ชั้น บนผิวรากฟัน รวมทั้งรูเปิดปลายราก อุดคลองรากฟันด้วยส่วนผสมแคลเซียมไฮดรอกไซด์ในฟันกลุ่มที่ 1 และ 2 กลุ่มละ 10 ปี ส่วนฟัน 1 ซี่ของแต่ละกลุ่ม จะเป็นกลุ่มควบคุม โดยปล่อยคลองรากฟันให้ว่างเปล่า นําฟันทั้ง 22 เจาะรูที่ผิวรากฟันห่างปลายรากฟัน 4 มิลลิเมตร และลึกจากผิวรากฟัน 1 มิลลิเมตร เก็บฟันไว้ในที่ความชื้นสัมพัทธ์ 100% อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส นํามาวัดพีเอช ที่ 0, 7, และ 14 วัน ด้วย Micro-electrode (model 98-10 : Micro Electrode, ORION) พร้อมด้วยเครื่องวัดพีเอช (model EA 940 : Advanced Benchtop ISE/pH meter, ORION) ผลการทดลอง ในกลุ่ม 1 ค่าพีเอช 7.82 ในวันที่ 0, 8.39 ในวันที่ 7, และ 8.75 ในวันที่ 14 ในกลุ่ม 2 ค่า พีเอช 8.2 ในวันที่ 0 และ 8,53, 9.03 ในวันที่ 7 และ 14 ตามลําดับ ค่าพีเอชในวันที่ 7 และวันที่ 14 จะแตก ต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) เมื่อใช้ paired-t test แต่เมื่อเปรียบเทียบค่าพีเอชระหว่างกลุ่ม 1 และ กลุ่ม 2 จะไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (unpaired-t test) สรุป การกําจัดซีเมีย เลเออะ ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าพีเอช ในท่อเนื้อฟันที่บริเวณปลายราก ภายหลังการใช้ ส่วนผสมของแคลเซียมไฮดรอกไซด์เป็นรูทคะแนล เดรสซิ่ง (root canal dressing)
DOI
10.58837/CHULA.CUDJ.22.3.6
First Page
161
Last Page
166
Recommended Citation
นวจินดา, เมตตจิตต์ and บุญศิริ, อมรรัตน์
(1999)
"ผลของ Smear Layer ต่อการเปลี่ยนแปลงพีเอชของเนื้อฟันส่วนราก หลังจากใส่แคลเซียมไฮดรอกไซด์,"
Chulalongkorn University Dental Journal: Vol. 22:
Iss.
3, Article 6.
DOI: 10.58837/CHULA.CUDJ.22.3.6
Available at:
https://digital.car.chula.ac.th/cudj/vol22/iss3/6