•  
  •  
 

Chulalongkorn University Dental Journal

Publication Date

1999-07-01

Abstract

วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับผลของวิตามินซี ต่อการหายของแผลถอนฟันในอาสาสมัครคนไทยกลุ่มหนึ่ง ที่เข้า รับการรักษาในภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นการศึกษาในขณะที่ผู้ป่วย ทุกคนรับประทานอาหารในชีวิตประจําวันตามปกติ วัสดุและวิธีการ ศึกษาจากอาสาสมัครซึ่งเป็นนิสิตทันตแพทย์จํานวน 22 คน อายุอยู่ระหว่าง 17-24 ปี โดยไม่ จํากัดเพศ ผู้ป่วยทุกคนมีฟันที่จะต้องถอนอย่างน้อยสองซี่ที่มีลักษณะทางกายวิภาคศาสตร์ใกล้เคียงกัน เช่นฟันกราม กับฟันกราม ฟันกรามน้อยกับฟันกรามน้อย และตําแหน่งต้องอยู่ในขากรรไกรเดียวกัน การถอนฟันครั้งแรกจะใช้ เป็นกลุ่มควบคุม โดยไม่ให้วิตามินซี วัดการหายของบาดแผลโดยการตรวจดูทางคลินิก แล้วใช้สาร Toluidin blue 1% ทาที่แผลถอนฟันจากนั้นล้างออกด้วยน้ํา ถ้าบาดแผลไม่ติดสีถือว่าแผลหายสนิท (Complete Epithelialization) ทั้งนี้เนื่องจากสาร Toluidin blue 1% จะติดสีเฉพาะเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) เท่านั้น ต่อจากนั้นจึง ทําการถอนฟันอีกที่หนึ่งซึ่งจะใช้เป็นกลุ่มทดลอง โดยให้วิตามินซี 2000 มก.ต่อวัน โดยแบ่งเป็น 4 ครั้งๆ ละ 500 มก.เป็นเวลา 10 วัน แล้วตรวจดูการหายของแผลเช่นเดียวกันนําระยะเวลาการหายของทั้งสองกลุ่มมาเปรียบเทียบ กันว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ ถ้ามีความแตกต่างกันจะแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติหรือไม่ ผลการศึกษา พบว่าวิตามินซีจํานวน 2000 มก.ต่อวันมีผลช่วยเร่งเวลาการหายของแผลถอนฟันให้หายเร็วขึ้นประ มาณ 20% ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) สรุป วิตามินซีจะมีอยู่ในอาหารบางชนิดเท่านั้นเช่นผัก ผลไม้ เป็นต้น ซึ่ง RDA, ได้แนะนําว่า ร่างกายควรจะได้รับ วันละ 60 มก.เพื่อนําไปใช้ซ่อมแซมร่างกายในภาวะปกติ แต่ในขณะที่ร่างกายเกิดบาดแผล ถ้าร่างกายได้รับวิตามินซี เพิ่มขึ้น ก็จะทําให้ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในขบวนการหายของแผลได้มากขึ้นซึ่งเป็นผลทําให้การหายของ แผลเร็วขึ้น จากการวิจัยครั้งนี้จะเห็นว่าวิตามินซีที่กลุ่มทดลองได้รับมีจํานวนประมาณ 35 เท่าของ RDA. แนะนําจะช่วยเร่งการหายของแผลให้เร็วขึ้นอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ

DOI

10.58837/CHULA.CUDJ.22.3.4

First Page

145

Last Page

150

Included in

Dentistry Commons

Share

COinS
 
 

To view the content in your browser, please download Adobe Reader or, alternately,
you may Download the file to your hard drive.

NOTE: The latest versions of Adobe Reader do not support viewing PDF files within Firefox on Mac OS and if you are using a modern (Intel) Mac, there is no official plugin for viewing PDF files within the browser window.