Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ผลของเอทานอลต่อการหลั่งลูทิไนซิ่งฮอร์โมนจากเซลล์ต่อมใต้สมอง ของหนูแรทในหลอดทดลอง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Effect of ethanol on the secretion of luteinizing hormone from rat pituitary cells in vitro

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

หรรษา อัศวเรืองชัย

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สัตววิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.583

Abstract

เพื่อที่จะศึกษาผลของเอทานอล 0.4% และ 0.6% (เทียบได้เท่ากับ 0.13 กรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว และ 0.2 กรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัว ตามลำดับ) ต่อความสามารถในการหลั่งลูทีไนซึ่งฮอร์โมน (rLH) โดยใช้วิธีเพาะเลี้ยงเซลล์ต่อมใต้สมองส่วนหน้าของหนูแรทเพศเมียอายุ 150-200 วัน ทำการทดลองภายหลังจากพรีอินคิวเบชัน (preincubation) 48 ชั่วโมง การทดลองทำเริ่มเลี้ยงเซลล์ในอาหารเลี้ยงเซลล์ที่มีเอทานอล 0.4% และ 0.6% ควบคู่ไปกับกลุ่มควบคุม จากนั้นเปลี่ยนอาหารเลี้ยงเซลล์ เมื่อครบ 24 ชั่วโมง แล้วเลี้ยงเซลล์ต่อไปในอาหารเลี้ยงเซลล์ที่ไม่มีเอทานอลควบคู่ไปกับกลุ่มควบคุมอีก 2 วัน โดยเปลี่ยนอาหารเลี้ยงเซลล์ทุก 24 ชั่วโมง ตรวจหาระดับ rLH ในอาหารเลี้ยงเซลล์ด้วยวิธีไบโอแอสเลย์ (Bioassay) และเรดิโออิมมิวโนแอสเสย์ (Radioimmunoassay) ผลการทดลองพบว่าเอทานอลทั้ง 2 ปริมาณ 0.4% และ 0.6% ไม่มีผลทำให้ค่าอิมมิวโนแอคทิวิตีเปลี่ยนแปลงจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่มีผลทำให้ค่าไบโอแอคทิวิตีที่ตรวจได้ใน 24 ชั่วโมงแรกลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยลดลงประมาณ 20% เมื่อให้เอทานอล 0.4% และลดลงประมาณ 50% เมื่อให้เอทานอล 0.6% และค่าไบโอแอคทิวิตีจะเพิ่มขึ้นภายหลังจากล้างเอทานอลออก 24 ชั่วโมง (ไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ) เพื่อตรวจสอบว่าเอทานอลจะมีผลลดไบโอแอคทิวิตีของ rLH อย่างต่อเนื่อง ถ้าให้เอทานอลต่อไปอีก 2 ครั้ง จึงทำการทดลองที่ 2 โดยเลี้ยงเซลล์ในอาหารเลี้ยงเซลล์ที่มีเอทานอล 0.4% และ 0.6% ควบคู่ไปกับกลุ่มควบคุมเช่นเดียวกับการทดลองที่ 1 โดยกลุ่มทดลองจะให้เอทานอล 24 ชั่วโมง สลับกับการไม่ให้เอทานอล 24 ชั่วโมง จนครบทั้งหมด 6 ครั้ง แล้วตรวจหาระดับ rLH ในอาหารเลี้ยงเซลล์ทั้งในกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองด้วยวิธีไบโอแอสเสย์ ผลการทดลองพบว่า เอทานอลมีผลลดค่าไบโอแอคทิวิตีแตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และจะเพิ่มภายหลังจากล้างเอทานอลออก 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับการทดลองที่ 1 และค่าไบโอแอคทิวิตีมีแนวโน้มจะลดลงในวันที่ 4 และ 6 เมื่อให้เอทานอลซ้ำอีก 2 ครั้ง ผลการทดลองชี้ให้เห็นว่าเอทานอลปริมาณ 0.4% และ 0.6% มีผลโดยตรงต่อเซลล์ต่อมใต้สมองภายใน 24 ชั่วโมงแรกอย่างมีนัยสำคัญโดยไปลดค่าไบโอแอคทิวีตีของ rLH แต่ไม่มีผลต่อปริมาณฮอร์โมนทั้งหมดที่หลั่งออกมา (วัดโดยวิธีเรดิโออิมมิวโนแอสเสย์) และการให้เอทานอลสลับกับการไม่ให้เอทานอลให้ผลยืนยันว่าเอทานอลมีผลลดไบโอแอคทิวิตีประมาณ 11% (ให้เอทานอล 0.4%) และ 21% (ให้เอทานอล 0.6%) ผลการวิจัยครั้งนี้จึงอาจสรุปได้ว่า แม้ว่าปริมาณลูทิพนซึงฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากเซลล์ต่อมใต้สมองจะคงเดิม แต่คุณสมบัติทางชีวภาพของฮอร์โมนจะถูกเปลี่ยนไปอันเป็นผลเนื่องจากเอทานอล ทำให้ LH สูญเสียความสามารถในการกระตุ้นเซลล์เป้าหมาย

Share

COinS