Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ของวิธีหาน้ำหนักตัวระหว่างวิธีของมอทท์กับวิธีของดีเอสบีของนักศึกษามหาวิทยาลัย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A relationship of body weight between the Mott method and the DSb method of University students

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

ประพัฒน์ ลักษณพิสุทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พลศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.235

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของวิธีหาน้ำหนักตัวระหว่างวิธีของมอทท์กับวิธีของดีเอสบีของนักศึกษามหาวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักศึกษาที่มีรูปร่างปกติ และกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐในกรุงเทพมหานคร ในปีการศึกษา 2530 อายุระหว่าง 17-27 ปี โดยทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งเป็นพวกหรือชั้น จากผู้ที่มีรูปร่างปกติ เป็นหญิง 406 คน และชาย 404 คน รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 810 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยทำการชั่งน้ำหนักตัว วัดส่วนสูง วัดขนาดรอบอกขณะปกติและวัดขนาดรอบข้อมือ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS-X ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์แห่งสหสัมพันธ์ แล้วนำเสนอในรูปตารางและความเรียง ผลการวิจัยปรากฏว่า วิธีหาน้ำหนักปกติของมอทท์กับวิธีหาน้ำหนักตัวปกติของดีเอสบี มีค่าสัมประสิทธิ์แห่งสหสัมพันธ์เท่ากับ 0.95 ที่ระดับความมีนัยสำคัญ .01 ซึ่งแสดงว่ามีความสัมพันธ์ต่อกันในระดับที่สูงมาก ดังนั้นวิธีหาน้ำหนักตัวปกติของมอทท์น่าที่จะนำไปใช้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยได้

Share

COinS