Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความเปลี่ยนแปรของสำนึกทางประวัติศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมไทย ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึง พ.ศ. 2475

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The transformation of historical consciousness and the changes in Thai society from the reign of King Mongkut to 1932 A.D.

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

นิธิ เอียวศรีวงศ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

อักษรศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ประวัติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.735

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้มุ่งแสดงให้เห็นว่าความเปลี่ยนแปรของสำนึกทางประวัตศาสตร์มีพลังอย่างมากในการผลักดันให้คนในสังคมไทยกระทำการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือการเกิดรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และการเปลี่ยนระบอบการปกครอง พ.ศ. 2475 ทั้งนี้โดยการวิเคราะห์ที่คำนึงถึงพลวัตภายในสังคมไทย สังคมไทยในรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา มีความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองมาก ทำให้ชนชั้นนำมีความคิดทางเวลากับความคิดเกี่ยวกับรัฐและกษัตริย์แตกต่างจากเดิม นำไปสู่การเกิดสำนึกทางประวัติศาสตร์ที่ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้กำหนดวิถีของประวัติศาสตร์ไทยให้มีความต่อเนื่องและก้าวหน้า และพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทรงมีพันธกิจที่จะต้องหาให้วิถีของประวัติศาสตร์ดำเนินไปสู่ ความก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป สำนึกนี้เป็นพลังทางภูมิปัญญาที่ผลักดันให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกระทำการรวมอำนาจเขาสู่ศูนย์กลาง เพื่อที่พระองค์จะทรงสามารถกำหนดวิถีของประวัติศาสตร์ไทยให้ดำเนินไปสู่ความก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง ภายใต้เงื่อนไข สภาพแวดลอมที่มีความเปลี่ยนแปลงรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์จึงได้ก่อตัวขึ้นในรัชกาลที่ 4 และมีพัฒนาการ เป็นรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์เต็มรูปในรัชกาลที่ 5 พลวัตภายในรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่สำคัญคือ การเมืองของราชวงศ์จักรีที่มีความขัดแย้งภายในระบบ ประกอบกับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจแบบเงินตรา ส่งผลให้ข้าราชการและราษฎร กลุ่มหนึ่งเกิดความสำนึกในศักยภาพของตนและสำนึกเชิงปัจเจกชน นำไปสู่การปฏิเสธหลักชาติวุฒิและการเกิดความสำนึกว่าสามัญชนมีบทบาทในการกำหนดวิถีของประวัติศาสตร์ไทย ให้ชาติอันเป็น "ผลรวมของหน่วยย่อย" ดำเนินไปสู่ความก้าวหน้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เกิดขึ้นในขอบเขตจำกัดทำให้ข้าราชการและราษฎรเหล่านี้มีสำนึกเชิงปัจเจกชนไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดความสำนึกในมหาบุรุษซึ่งไม่จำเป็นต้องมีชาติกำเนิดสูง สำนึกทางประวัติศาสตร์ที่สามัญชนเป็นผู้กำหนดวิถีของประวัติศาสตร์ภายใต้การนำของมหาบุรุษนี้เป็นหลังทางภูมิปัญญาที่ผลักดันให้ข้าราชการกลุ่มหนึ่งกระทำการเปลี่ยนระบอบการปกครองเพื่อที่ตนจะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้นำในการกำหนดวิถีของประวัติศาสตร์ไทยให้ดำเนินไปสู่ความก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

Share

COinS