Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาลักษณะใบหน้าในแนวดิ่งที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ ในแนวหน้าหลัง ของขากรรไกรล่างต่อขากรรไกรบน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of vertical facial pattern regarding the antero-posterior relationship of mandible to maxilla

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

กนก สรเทศน์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

ทันตกรรมจัดฟัน

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.528

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่าความสัมพันธ์ในแนวหน้าหลังของขากรรไกรล่างต่อขากรรไกรบนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะใบหน้าในแนวดิ่งซึ่งต่างกันไปในแต่ละบุคคลและมีความแตกต่างระหว่างเพศ อายุ หรือไม่อย่างไรและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงความสัมพันธ์ในแนวหน้าหลังของขากรรไกรล่างต่อขากรรไกรบน กล่าวคือเป็นค่าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะใบหน้าในแนวดิ่งน้อยที่สุดระหว่างวิธีที่นิยมใช้ 3 วิธี ได้แก่ มุม ANB ระยะ AO-BO และ AFH-BFH ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยความผิดปกติของใบหน้าผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องแม่นยำ อันจะนำไปสู่การวางแผนการบำบัดรักษาทางทันตกรรมจัดฟันที่ถูกต้องเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย ผลการวิจัยพบว่า 1. ความสัมพันธ์ในแนวหน้าหลังของขากรรไกรลางต่อขากรรไกรบนมีความแตกต่างระหว่างเพศและอายุดังนี้ 1.1 มุม ANB มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างอายุเท่านั้น 1.2 ระยะทาง AO-BO มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเพศเท่านั้น 1.3 ระยะทาง AFH-BFH มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเพศและอายุ 2. ความสัมพันธ์ในแนวหน้าหลังของขากรรไกรล่างต่อขากรรไกรบนมีการเปลี่ยนแปลงตามลักษณะใบหน้าในแนวดิ่งด้วยความสัมพันธ์ในรูปสมการถดถอยพหุคูณดังนี้ 2.1 ANB = -46.391+0.362(SN-OP)+0.439(SNA)+0.080(SN-MP)+0.059(SN) 2.2 AO+BO ไม่มีความสัมพันธ์กับตัวแปรอิสระในรูปของสมการ 2.3 AFH-BFH = - 4.271+0.426(FH-OP)+ 0.175(FH-MP) 3. ระยะทาง AO-BO เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการแสดงความสัมพันธ์ในแนวหน้าหลังของขากรรไกรล่างต่อขากรรไกรบนโดยใช้ร่วมกับการวัดค่ามุมหรือระยะทางอื่นที่สามารถบอกตำแหน่งของขากรรไกรบนและล่างได้

Share

COinS