Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

เดกซ์แทรนเนสจาก Penicillium sp. สายพันธุ์ 61

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Dextranase from Penicillium sp.strain 61

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

สุเทพ ธนียวัน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

จุลชีววิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.519

Abstract

จากการคัดเลือกเชื้อราจากตัวอย่างดินแหล่งต่าง ๆ ในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 240 สายพันธุ์ พบว่ามีราที่สามารถผลิตเดกซ์แทรนเนสได้ 22 สายพันธุ์ โดยมีเชื้อรา 5 สายพันธุ์ สามารถผลิตเอนไซม์เดกซ์แทรนเนสได้สูง เชื้อ Penicillium sp. สายพันธุ์ 61 เป็นราที่มีความสามารถผลิตเอนไซม์ได้สูงสุดเชื้อสายพันธุ์นี้สามารถให้เดกซ์แทรนเนสได้สูงเมื่อเลี้ยงในอาหารที่มีเดกซ์แทรนน้ำหนักโมเลกุล 3-50x10⁶ ความเข้มข้น 1.0% เป็นแหล่งคาร์บอนสำหรับแหล่งไนโตรเจนที่เหมาะสม พบว่า NaNo3 เป็นสารที่ทำให้การผลิตเอนไซม์เกิดได้ดี ในขณะที่เกลือแอมโมเนียมชนิดต่าง ๆ และสารประกอบอินทรีย์ไนโตรเจน เช่น เปปโตน สารสกัดยีสต์ และ corn steep liquor กลับให้ผลผลิตเอนไซม์ต่ำกว่า สภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตเอนไซม์เดกซ์แทรนเนสจากรา Penicillium sp. สายพันธุ์ 61 นี้ คือ ความเป็นกรดด่างเริ่มต้นที่ 5-6 อุณหภูมิ 30-35 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิห้อง) โดยภายใต้สภาวะที่เหมาะสมนี้ Penicillium sp. สายพันธุ์ 61 สามารถผลิตเอนไซม์ได้สูงสุด 42 หน่วยต่อมล. ของน้ำเลี้ยงเชื้อภายในวันที่ 6 ของการเลี้ยงเชื้อ สำหรับคุณสมบัติที่สำคัญของเอนไซม์เดกซ์แทรนเนสจากเชื้อ Penicillium sp. สายพันธุ์ 61 นี้ มีแอคติวิตีสูงสุดที่อุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส ความเป็นกรดด่าง 5.5 ในอะซีเตทบัฟเฟอร์ ความเข้มข้น 0.05 โมลาร์ และเอนไซม์จะมีความเสถียรต่อกรดด่างที่ pH 5-8 อุณหภูมิที่ 55 องศาเซลเซียสได้นานกว่า 30 นาที เอนไซม์เดกซ์แทรนเนสนี้มีค่า Km เป็น 1.6x10-6 โมลาร์สำหรับสับสเตรทเดกซ์แทรน T-2000 และมีความจำเพาะต่อการย่อยสลายพันธะ แอลฟา 1.6

Share

COinS