Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาผลกระทบจากโครงการชลประทานขนาดใหญ่ : กรณีศึกษาโครงการชลประทาน พิษณุโลก

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The impact study of large scale irrigation project : a case study of pitsanuloke irrigation project

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

สุวัฒนา ธาดานิติ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางแผนภาคและเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.55

Abstract

การชลประทานมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดพิษณุโลกซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการทำการเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ เพราะการชลประทานจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และจะนำมาซึ่งการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในท้ายที่สุด จากผลการศึกษา พบว่า โครงการชลประทานพิษณุโลก สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ กล่าวคือ โครงการฯ มีผลทำให้เกษตรกรสามารถทำการ เพาะปลูกได้ตลอดปี สามารถเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว ทำให้ความต้องการการใช้แรงงานเพิ่มขึ้น ช่วยให้เกิดความสะดวกในการขนส่งและการคมนาคม และช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตโครงการ นอกจากนั้น โครงการฯ มีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ที่ดิน โดยขยายพื้นที่ปลูกข้าว เพิ่มมากขึ้น และเกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้สองครั้งต่อปี การถือครองที่ดินเป็นพื้นที่เช่าทำกินเพิ่มมากขึ้นเกษตรกร เปลี่ยนแปลงวิธีการทำนา มีการยอมรับเทคโนโลยีทางการเกษตร เพิ่มขึ้น มีการรวมกลุ่มเพื่อตอบสนองระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพของตนเพิ่มขึ้น มีการ เดินทางติดต่อซื้อขายปัจจัยการผลิตและรับบริการจากราชการได้มากขึ้น และมีทัศนคติที่ดีต่อการชลประทาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการฯ ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างใหญ่ และมีความแตกต่างกันในพื้นที่ ดังนั้นจึงเกิดปัญหาเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำของระดับการพัฒนา โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้งปัญหาที่เกิดจากระบบ ทางวิศวกรรมชลประทานและการจัดการเกี่ยวกับการชลประทาน และปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการเสริมของการพัฒนา เช่น การส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมสหกรณ์ และการให้สินเชื่อ เพื่อการเกษตรเป็นต้น การแก้ไขปัญหานั้น จำเป็นต้องแก้ไขทั้งด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับวิศวกรรมชลประทานและด้านการจัดการ ซึ่งการแก้ไขด้านเทคโนโลยีนั้นสามารถทำได้โดยง่าย แต่ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการ เกี่ยวกับน้ำและระบบการจัดการเสริม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จโดยสมบูรณ์ของการพัฒนานั้นเป็นปัญหาที่สลับ ซับซ้อน การแก้ไขจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นกลไก เหล่านั้นจำเป็นต้องประสานงานกันโดยมุ่งในเป้าหมาย เดียวกัน คือ เพื่อพัฒนาการเกษตร นอกจากนั้นแล้วยังต้องให้ความสนใจในส่วนของประชาชนด้วย โดยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วม เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกเกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะร่วมรับผิดชอบในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชลประทานต่อไป

Share

COinS