Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การพัฒนาและประเมินคุณค่าของเดตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูล

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Development and evaluation of tetanus toxoid microcapsules

Year (A.D.)

1988

Document Type

Thesis

First Advisor

อุบลทิพย์ นิมมานนิตย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

เภสัชศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

เภสัชกรรม

DOI

10.58837/CHULA.THE.1988.25

Abstract

การวิจัยนี้ได้นำเทคนิคการทำไมโครแคปซูลมาใช้เตตานัสท็อกซอยด์ที่ออกฤทธิ์ได้นานและลดจำนวนครั้งในการให้ภูมิคุ้มกันปฐมภูมิ ให้เหลือเพียงครั้งเดียว โดยใช้เตตานัสท็อกซอยด์ซึ่งเป็นยาฉีดแขวนตะกอนมาเตรียมเป็นไมโครแคปซูลโดยวิธีโคอาเซอร์เวชั่น เปรียบเทียบกับวิธีอินเตอร์เฟเชียลโพลิเมอร์โรเซชั่น เตตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูลที่ได้จากการเตรียมโดยวิธีโคอาเซอร์เวชั่นนั้นใช้เอทิลเซลลูโลสเป็นผนังของไมโครแคปซูล ไมโครแคปซูลที่ได้มีขนาดอนุภาคโดยเฉลี่ย 24.99 ไมครอน ส่วนเตตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูลที่เตรียมได้จากวิธีอินเตอร์เฟเชียลโพลิเมอร์โรเซชั่นนั้น ได้จากปฏิกริยา โพลิเมอร์โรเซชั่นระหว่างเลซิทินบริสุทธิ์จากไข่แดงและคาร์บอกซีเมทิลไคทิน ไมโครแคปซูลที่ได้มีอนุภาคโดยเฉลี่ย 2.69 ไมครอนซึ่งเล็กกว่าขนาดของเตตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูลที่เตรียมได้จากวิธีโคอาเซอร์เวชั่น ในการวิจัยนี้ได้กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคบาดทะยักในหนูถีบจักร โดยฉีดเตตานัสท็อกซอยด์ เข้าใต้ผิวหนัง และเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างแอดสอร์บเตตานัสท็อกซอยด์ (I) ส่วนผสมของเตตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูลกับแอดสอร์บเตตานัสท็อกซอยด์ (II) และเตตานัสท็อกซอยด์ไมโครแคปซูลเพียงอย่างเดียว ( III) พบว่า (I) สามารถป้องกันบาดทะยัดในหนูถีบจักรได้เพียงสัปดาห์ที่ 4 หลังการให้ท็อกซอยด์แต่เมื่อสัปดาห์ที่ 12 สามารถป้องกันได้เพียงร้อยละ 50 ( อัตราการตาย 5 ใน 10 ตัว) ส่วน ( II) สามารถป้องกันบาดทะยักในหนูถีบจักรได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 จนถึงที่ 12 สำหรับ ( III) นั้นไม่สามารถป้องกันบาดทะยักได้ไม่ว่าสัปดาห์ที่ 4 หรือ 12

Share

COinS