Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

บทบาทขององค์กรพัฒนาเอกชนในการส่งเสริมการพัฒนา แบบมีส่วนร่วม : กรณีศึกษาโครงการพัฒนาชนบทแควระบม-สียัด

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The role of non-governmental organizations in partictdatory development : the case study of Kwairrabom Seeyad development project

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

สุริชัย หวันแก้ว

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

สังคมวิทยามหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.742

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มุ่งสนใจศึกษาบทบาทขององค์กรพัฒนา เอกชนในการผลักดันส่งเสริมให้เกิดองค์กรประชาชนที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงของประชาชนและศึกษาถึงบทบาทการทำงานขององค์กรประชาชนดังกล่าวว่าจะสามารถเป็นตัวแทนของประชาชนในการพัฒนาอย่างเป็นอิสระและยังประโยชน์ให้ชุมชนอย่างแท้จริงหรือไม่ โดยที่ผู้ศึกษาได้ใช้กรณีศึกษาของโครงการพัฒนาชนบทแควระบม-สียัด ว่ามีบทบาทในการส่งเสริมให้เกิดกลุ่ม ธนาคารข้าว ธนาคารควาย และกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการพัฒนาและศึกษาบทบาทการทำงานของกลุ่มทั้งสาม ว่าจะสามารถแก้ปัญหาและทำประโยชน์ให้กับชุมชนอย่างเป็นตัวของตัวเองหรือไม่ ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วนคือ ๑. การรวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง บทความ และผลงานวิจัยต่าง ๆ ๒. ข้อมูลจากการวิจัยสนาม ซึ่งจะเป็นข้อมูลจาก ๒.๑ การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความต่อเนื่อง โดยเข้าไปอาศัยในชุมชน ๒.๒ การสัมภาษณ์ ซึ่งประกอบด้วยการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการตามแนวสัมภาษณ์ และการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งผู้ที่อยู่ในข่ายการสัมภาษณ์ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ หรือนักพัฒนาขององค์กร พัฒนาเอกชน และประชาชนในพื้นที่โครงการ จากการศึกษาพบว่า องค์กรพัฒนามีบทบาทที่สำคัญ ๔ ด้าน คือ บทบาทในการปรับตัว (Adaptation) บทบาทในการกระตุ้น (Agitator) บทบาทในการระดมทรัพยากร (Resource Mobiliser) และบทบาทในการประสานงาน (Coordinator) ที่มีส่วนผลักดันส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของตนเอง จนในที่สุดสามารถสร้างแกนนำในการพัฒนาคือ กลุ่มธนาคารข้าว ธนาคารควาย และกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการพัฒนา ซึ่งกลุ่มเหล่านี้สามารถสร้างการยอมรับ และระดมความร่วมมือของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการก่อการและดำเนินงาน ตั้งแต่เริ่มต้นตลอดทั้งขบวนการ ชาวบ้านมีความเข้าใจในกลุ่มทั้ง 3 และมีความรู้สึกผูกพันและเป็นเจ้าของ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการดำเนินการเป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังสามารถตกลงสร้างกฎเกณฑ์ร่วมกันได้ และทุกคนก็มีความเคารพในกติกาที่ร่วมกันสร้าง สามารถสรุปได้ว่ากลุ่มทั้ง 3 ทำให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในขั้นต่าง ๆ ของการพัฒนา คือ ๑. มีส่วนร่วมในการค้นหาปัญหาวิเคราะห์สาเหตุ พิจารณาแนวทางแก้ไข ๒. มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ไข และวางโครงการแก้ปัญหา ๓. มีส่วนร่วมปฏิบัติตามโครงการที่วางไว้ ๔. มีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ที่ได้จากโครงการ ๕. มีส่วนร่วมในการประเมินผลโครงการ บทบาทการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชนดังกล่าว นอกจากจะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา และสามารถแก้ปัญหาและสนองความต้องการของชาวบ้านอย่างตรงเป้าหมายแล้ว ได้กลายเป็นสถาบันของชุมชนที่บทบาทในการแก้ปัญหาของธนาคารข้าว ธนาคารควาย และกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการพัฒนา สามารถประสานกับกระบวนการสร้างความมั่นคงให้แก้ตัวกลุ่มทั้ง 3 เอง จนสามารถทำให้ กลุ่มธนาคารข้าว ธนาคารควาย และกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการพัฒนา สามารถพัฒนาตนเองขึ้นจนกลายเป็นสถาบันที่ได้รับยอมรับจากชาวบ้าน และสามารถมีส่วนในการพัฒนาความคิดของชาวบ้าน จนกระทั่งเกิดความรู้สึกนึกคิดที่เชื่อมั่นและพร้อมที่จะดิ้นรนเพื่อแก้ไขปัญหาของตนเอง รวมทั้งสามารถพัฒนาความร่วมมือกันในหมู่บ้าน เกิดสำนึกตระหนักถึงหน้าที่ของตนในชุมชนที่จะต้องแบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นวิถีชีวิตที่ดีงามของชุมชนในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกิดกระบวนการพัฒนาที่ประชาชนมีส่วนร่วมเกิดกลุ่มแกนนำที่กลายเป็นสถาบันของชุมชนที่มีศักยภาพในการพัฒนาขึ้นภายในชุมชนแล้วก็ตาม แต่ก็มีขีดจำกัดมากมายในการดำเนินการพัฒนาที่จะทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งขีดจำกัดดังกล่าวจะเป็นขีดจำกัดที่มาจากลักษณะโครงการเอง ได้แก่ ลักษณะการบริหารของโครงการลักษณะของการทำงานที่ขาดการกระจายข่าวสาร ขาดการรวดเร็วในการรับผลประโยชน์ และการขาดแคลนทรัพยากรของโครงการในการดำเนินการ ขีดจำกัดที่มาจากภาวะแวดล้อมของโครงการ ได้แก่ ขีดจำกัดทางกายภาพ, ขีดจำกัดทางเศรษฐกิจ, ขีดจำกัดทางสังคม, ขีดจำกัดทางการเมือง, ขีดจำกัดทางวัฒนธรรม และขีดจำกัดทางประวัติศาสตร์

Share

COinS