Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การกำจัดไนโตรเจนในน้ำเสียด้วยระบบแอกทิเวตเต็ดสลัดจ์ และแอเรตเต็ดลากูน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Nitrogen removal by activated sludge system and aerated lagoon

Year (A.D.)

1987

Document Type

Thesis

First Advisor

มั่นสิน ตัณฑุลเวศม์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม

DOI

10.58837/CHULA.THE.1987.699

Abstract

จากการทดลองกำจัดไนโตรเจน (TKN) ในน้ำเสียสิ่งปฏิกูลที่ผ่านการตกตะกอนมาแล้วนั้น ด้วยระบบแอกทิเวตเต็ดสลัดจ์และระบบแอเรตเต็ดลากูน ภายใต้การควบคุมอายุตะกอน (SRT) ที่ 5 10 15 และ 20 วัน และระยะเวลากักน้ำ (HRT) 3 5 และ 10 วัน ตามลำดับ พบว่าทั้งอายุตะกอนและระยะเวลากักน้ำจะต้องสูงกว่า 10 วัน ปฏิกิริยาไนตริฟิเคชันจึงจะสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ระดับพีเอชและออกซิเจนละลายก็จะต้องมีค่าสูงเพียงพอด้วย สภาพความเป็นด่างในน้ำเสียสิ่งปฏิกูลมีค่าต่ำกว่าระดับที่ต้องการมากจึงเติมโซเดียมไบคาร์บอเนตเพื่อเพิ่มสภาพความเป็นด่างให้มีปริมาณที่มากเกินพอโดยส่วนหนึ่งใช้ไปในปฏิกิริยา อีกส่วนหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมพีเอชไม่ให้ลดต่ำลงจนปฏิกิริยาเกิดขึ้นไม่ได้ ในการกำจัดไนโตรเจนด้วยระบบแอกติเวตเต็ดสลัดจ์และระบบแอเรตเต็ดลากูน ระบบทั้งสองมีประสิทธิภาพในการกำจัดไนโตรเจนเท่าเทียมกัน ยกตัวอย่าง เช่น ระบบแอกติเวตเต็ดสลัดจ์สามารถกำจัด TKN จากความเข้มข้นประมาณ 300 มก./ล. ให้เหลือความเข้มข้นน้อยกว่า 1 มก./ล. ในขณะควบคุม SRT ให้มีค่ามากกว่า 10 วัน อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงระดับตะกอนที่มีอยู่ในน้ำทิ้งด้วยแล้วระบบแอเรตเต็ดลากูนมีตะกอนแขวนลอยสูงกว่าระบบแอกทิเวตเต็ดสลัดจ์และมีค่าเกินกว่ามาตรฐานกำหนด ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบความเหมาะสมในการกำจัดไนโตรเจนในน้ำเสียด้วยระบบทั้งสองก่อนที่จะระบายน้ำทิ้งลงสู่ลำน้ำสาธารณะ จึงพบว่า ระบบแอกทิเวตเต็ดสลัดจ์มีความเหมาะสมในการกำจัดไนโตรเจนมากกว่า และสามารถระบายน้ำทิ้งลงสู่ลำน้ำสาธารณะได้ทันที

Share

COinS