Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาย้อนหลังผลของการรักษาโรคมะเร็งตับชนิดปฐมภูมิด้วยวิธีฉีดยาเคมีบำบัดชนิด 5-ฟลูโอโรยูราซิลและไมโตไมซินซี ผสมลิปิออยดอลและเจลโฟมเข้าสู่ก้อนมะเร็งโดยผ่านเส้นเลือแดงใหญ่บริเวณขาหนีบ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The retrospective study of transfemoral approach transarterial chemoembolization using 5-fluorouracil plus mitomycin C and lipiodol in patients with hepatocellular carcinoma

Year (A.D.)

2005

Document Type

Thesis

First Advisor

ปิยะวัฒน์ โกมลมิศร์

Second Advisor

เพิ่มยศ โกศลพันธุ์

Faculty/College

Faculty of Medicine (คณะแพทยศาสตร์)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อายุรศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.2005.676

Abstract

คำนำ : ในปัจจุบันยังไม่มีคำแนะนำที่เป็นมาตรฐานสำหรับชนิดของยาเคมีบำบัดที่เหมาะสม สถาบัน ส่วนใหญ่ใช้ยาชนิดเดียว มีข้อมูลของประสิทธิภาพในการใช้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดร่วมกันจำกัดโดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อจำแนกผู้ป่วยตาม BCLC staging system จุดประสงค์ : เพื่อศึกษาถึงอัตราการรอดชีวิตของการรักษาโรคมะเร็งตับด้วยวิธีฉีดยาเคมีบำบัดเข้าสู่ ก้อนมะเร็งโดยผ่านเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณขาหนีบด้วยการใช้ยา 5-ฟลูโอโรยูราซิลและไมโตไมซินซีโดยแยก ผู้ป่วยตาม BCLC staging system วิธีการ : ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีฉีดยาเคมีบำบัดเข้าสู่ก้อนมะเร็งโดยผ่านเส้นเลือด แดงใหญ่บริเวณขาหนีบในรพ.จุฬาลงกรณ์ตั้งแต่เดือน ม.ค.2541 ถึง พ.ย. 2546 จำนวน 144 รายได้รับการติดตามถึงสาเหตุและวันเดือนปีที่เสียชีวิต ผลการศึกษา : อัตราการรอดชีวิตที่ 1 และ 2 ปีใน stage A จำนวน 31 รายคือ 65% และ 38% ใน Stage B จำนวน 80 รายคือ 44% และ 19% และใน stage C จำนวน 33 รายคือ 12% และ 3% ตามลำดับ (p=0.01) เมื่อพิจารณาในผู้ป่วย stage A อัตราการรอดชีวิตที่ 1 และ 2 ปีใน Child A จำนวน 24 รายคือ 78% และ 45% ใน Child B จำนวน 9 รายคือ 33% และ 22% ตามลำดับ (p=0.374) เมื่อพิจารณาในผู้ป่วย stage B อัตราการรอดชีวิตที่ 1 และ 2 ปีในผู้ป่วยที่มีก้อนมะเร็ง 1 ก้อนขนาดไม่เกิน 10 cm คือ 50% และ 40% และใน ผู้ป่วยที่มีก้อนมะเร็ง 1 ก้อนขนาดใหญ่กว่า 10 cm หรือมีก้อนมะเร็งมากกว่า 1 ก้อนคือ 40% และ 10% ตามลำดับ (p=0.01) สรุป : การรักษาโรคมะเร็งตับด้วยวิธีฉีดยาเคมีบำบัดเข้าสู่ก้อนมะเร็งโดยผ่านเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณขาหนีบด้วยการใช้ยา 5-ฟลูโอโรยราซิลและไมโตไมซินซี มีอัตราการรอดชีวิตที่ 1 และ 2 ปีดีที่สุดในผู้ป่วย BCLC stage A และอาจมีประโยชน์ในการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตในผู้ป่วย BCLC stage B ที่มีก้อนมะเร็ง 1 ก้อนขนาดไม่เกิน 10 cm

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

Introduction : There is a limited data on the results of TACE in HCC patients based on The Barcelona Clinic Liver Cancer ( BCLC) staging system. Aim: To evaluate the survival outcome of TACE using 5 - fluorouracil plus mitomycin C in the different stage of HCC patients based on the BCLC staging system. Patients and Methods : From January 1998 to November 2003 . A total of 144 HCC patients treated with TACE using 5-fluorouracil plus mitomycin C were analysed retrospectively for survival time in relation to the BCLC staging system. Result : The 1 and 2 years survival rate of the patients in stage A (N=33) were 65% and 38%, stage B (N=80) were 44% and 19% and stage C (N=31) were 12% and 3%, respectively. (p=0.01) Regarding to stage A patients, the land 2 years survival rate in Child A (N=24) were 78% and 45%, Child B (N=9) were 33% and 22%, respectively.(p=0.374) Regarding to stage B patients, the 1 and 2 years survival rate in those with single tumor ≤ 10 cm (N=25) were 50% and 40%, those with single tumor more than 10 cm or multiple tumor (N=55) were 40% and 10%. respectively. (p=0.01) Conclusion : TACE using 5-Fluorouracil plus mitomycin C give the best 2 years survival in the BCLC stage A patients and show survival benefit in stage B patients with single tumor ≤ 10 cm.

Link to Full Text

Share

COinS