Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความรู้ ทัศนคติ ภาวะการมีพฤติรกรรมเสี่ยง และการตรวจมะเร็งปากมดลูกของสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไปในเขตอำเภอเมืองสุพรรณบุรี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Knowledge, attitude, risk behavior status and pap smear screening for cervical cancer among women aged 35 years and over in amphoe mueang, Suphanburi province

Year (A.D.)

2004

Document Type

Thesis

First Advisor

ทัสสนี นุชประยูร

Second Advisor

สมรัตน์ เลิศมหาฤทธิ์

Faculty/College

Faculty of Medicine (คณะแพทยศาสตร์)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

เวชศาสตร์ชุมชน

DOI

10.58837/CHULA.THE.2004.628

Abstract

การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความรู้ ทัศนคติ ภาวะการมีพฤติกรรมเสียงและการตรวจมะเร็งปากมดลูกของสตรีอายุ 35 ปีขึ้น ไปในเขตอำเภอเมืองสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นสตรีอายุ 35 ปีขึ้นไปในเขตอำเภอเมือง สุพรรณบุรี จำนวน 634 ราย ซึ่งสุ่มเลือกได้โดยวิธีสุ่มมีขั้นตอนและสุ่มเลือกอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสัมภาษณ์ ในระหว่างเดือนธันวาคม 2547-มกราคม 2548วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Chi-square test และ Independent Sample t-test ผลการศึกษา พบว่าสตรีกลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ย 52.4 ปี ไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ และเคยตรวจมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 52.8 อายุที่ตรวจมะเร็งปากมดลูกครั้งแรกส่วนใหญ่อยู่ ระหว่าง 35-39 ปี ความถี่ในการตรวจมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่ ( ร้อยละ 43.3) มาตรวจนานๆ ครั้ง สตรีที่มีการตรวจมะเร็งปากมดลูกสม่ำเสมอทุกปี มีร้อยละ 17.9 เป็นสตรีที่มีอายุระหว่าง 45-49 ปี เป็น ส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.7 ของสตรีไม่มีพฤติกรรมเสียงต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก และ ร้อยละ 59.8 มี พฤติกรรมเสียงอยู่ในระดับน้อย (≤ 3 ข้อ) พฤติกรรมเสียงต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ สตรีหรือสามีสูบบุหรี่ (ร้อยละ 41.2) มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุน้อยกว่า 20 ปี (ร้อยละ 20.7) ฐานะทางเศรษฐกิจต่ำ (ร้อยละ 15.0) คลอดบุตรมากกว่า 4 ครั้ง (ร้อยละ 14.4) สามีมีคู่นอนหลาย คน (ร้อยละ 14.0) สตรีส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูกอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 65.8) ทัศนคติเกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 67.3) ทั้งความรู้ และทัศนคติ มีความสัมพันธ์กับการตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) แต่พฤติกรรมเสียงต่อ การเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกไม่มีความสัมพันธ์กับการตรวจโรคมะเร็งปากมดลูก (p> 0.05) ความรู้ และ ทัศนคติของสตรีในเขตเมืองและเขตชนบท แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p< 0.05) ส่วน พฤติกรรมเสียงของสตรีทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

An interview survey of 634 women chosen by 2-stage cluster sampling and simple random sampling from women, aged 35 years and over in Amphoe Mueang, Suphan buri, was conducted between December 2004 and January 2005, to study knowledge, attitude, regarding CA cervix, known risk behavior that are associated with cervical carcinoma, and pap- smear. The result of the study revealed that the mean age of these women was 52.4 years old. Around half (47.2%) never had pap-smear. Of women who had pap-smear at least once, 17.9% had regular yearly check up. Most of them had their first pap-smear done at age 35-39 years old. Around one third (34.7%) of these women showed no risk behavior status, while 59.8% had 3 risk behavior or less. The 5 most common risk behavior were the following : smoking habits (41.2%) having first sexual contact before age 20 (20.7%), poor economic status (15.0%), multiple (> 4) pregnancies (14.4%) and promiscuous husband (14.0%). Most of women had moderate knowledge (65.8%) and attitude (64.7%) regarding cervical carcinoma, There were relationship between knowledge, attitude, and pap-smear screening with statistical significance (p< 0.05) but no relationship between risk behavior status and pap- smear screening was demonstrated. It was also shown from this study that women who resided in urban and rural area had statistically significant difference in knowledge, attitude and practice of pap-smear screening (p < 0.05), but not in risk behavior status.

Link to Full Text

Share

COinS