Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนทำสวนมะพร้าวอ่อน ในเขตภาคกลางของประเทศไทย
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Analysis of cost and return on investment of young coconut plantation in the central part of Thailand
Year (A.D.)
1990
Document Type
Thesis
First Advisor
ประทีป กุณาศล
Second Advisor
อังศนา เฉลิมกาญจนา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
บัญชีมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
การบัญชี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1990.513
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้มุ่งศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนทำสวนมะพร้าวอ่อนในเขตภาคกลางของประเทศไทย ปีการเพาะปลูก 2532 โดยการออกแบบสอบถามและสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ทำสวนมะพร้าวอ่อนจำนวน 77 ราย และทำการวิเคราะห์ข้อมูลหาค่าต้นทุนเฉลี่ยและผลตอบแทน สำหรับมะพร้าวอ่อนที่มีอายุตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึง 10 ปี โดยแบ่งขนาดพื้นที่ในการศึกษาเป็น 3 ขนาด คือ พื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่า 10 ไร่ พื้นที่เพาะปลูก 10 ถึง 30 ไร่ และพื้นที่เพาะปลูก 30 ไร่ขึ้นไป นอกจากนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากหนังสือ เอกสารและรายงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาปรากฎว่า การทำสวนมะพร้าวอ่อนจะเริ่มมีรายได้ตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป ขนาดพื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่า 10 ไร่ มีต้นทุนเฉลี่ย/ไร่/ปี ในระหว่างปีที่ 4-10 เป็นจำนวนเงิน 3,651.99-4,030.72 บาท และมีรายได้เฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 6,856.00-8,562.00 บาท ได้รับกำไรสะสมทั้งสิ้นไร่ละ 27,735.52 บาท คิดเป็นร้อยละ 50.37 ของรายได้ทั้งสิ้น พื้นที่เพาะปลูก 10 ถึง 30 ไร่ มีต้นทุนเฉลี่ย/ไร่/ปี ในระหว่างปีที่ 4 – 10 เป็นจำนวนเงิน 2,867.59 – 3,442.94 บาท และมีรายได้เฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 6,206.00 – 8,486.00 บาท ได้รับกำไรสะสมทั้งสิ้นไร่ละ 31,689.63 บาท คิดเป็นร้อยละ 58.29 ของรายได้ทั้งสิ้น และสำหรับพื้นที่เพาะปลูก 30 ไร่ขึ้นไป มีต้นทุนเฉลี่ย/ไร่/ปี ในระหว่างปีที่ 4 – 10 เป็นจำนวนเงิน 2,596.59 – 3,183.08 บาท และมีรายได้เฉลี่ย/ไร่/ปี เป็นจำนวนเงิน 6,634.00 – 9,860.00 บาท ได้รับกำไรสะสมทั้งสิ้นไร่ละ 40,837.04 บาท คิดเป็นร้อยละ 66.20 ของรายได้ทั้งสิ้น จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุนพบว่าขนาดพื้นที่เพาะปลูกน้อยกว่า 10 ไร่ มีระยะเวลาคืนทุนภายใน 6 ปี มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเป็นบวก เมื่อคำนวณโดยใช้ต้นทุนของเงินทุนเท่ากับ 8% และ 12% มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเป็นลบเมื่อคำนวณโดยใช้ต้นทุนของเงินทุนเท่ากับ 14% และได้รับอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงร้อยละ 13.81 สำหรับขนาดพื้นที่เพาะปลูก 10 ถึง 30 ไร่ และขนาดพื้นที่เพาะปลูก 30 ไร่ขึ้นไป มีระยะเวลาคืนทุนภายใน 5 ปี มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเป็นบวก เมื่อคำนวณโดยใช้ต้นทุนของเงินทุนเท่ากับ 8% 12% และ 14% และได้รับอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงร้อยละ 26.95 สำหรับขนาดพื้นที่เพาะปลูก 10 ถึง 30 ไร่ และร้อยละ 32.99 สำหรับขนาดพื้นที่เพาะปลูก 30 ไร่ขึ้นไป จึงสรุปได้ว่า การลงทุนทำสวนมะพร้าวอ่อนได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุนและการลงทุนในพื้นที่ 30 ไร่ขึ้นไป ได้รับผลตอบแทนสูงที่สุด สำหรับปัญหาโดยทั่วไปของการทำสวนมะพร้าวอ่อนคือ เกษตรกรขาดอำนาจต่อรองทางด้านราคาเกษตรกรขาดต้นพันธุ์มาตรฐาน และเกษตรกรขาดแคลนเงินทุนเนื่องจากมะพร้าวอ่อนต้องใช้เวลา 3-4 ปี กว่าจะให้ผลผลิต ดังนั้นในปีที่ 1-3 จะเป็นการลงทุนโดยไม่ได้รับผลตอบแทน ข้อเสนอแนะบางประการเพื่อใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา คือ ควรมีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อสร้างอำนาจต่อรองราคา รัฐบาลควรจัดหาต้นพันธุ์ที่เป็นมาตรฐานให้เกษตรกร จัดหาเงินให้เกษตรกรกู้ยืม ตลอดจนรัฐบาลควรช่วยขยายตลาดต่างประเทศเพื่อเพิ่มการส่งออกให้มากขึ้น
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
บัวทองศรี, สายนที, "การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนทำสวนมะพร้าวอ่อน ในเขตภาคกลางของประเทศไทย" (1990). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 42931.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/42931