Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทน จากการลงทุนปลูกยาสูบพันธ์เบอร์เลย์ฤดูฝน และข้าวเจ้าในจังหวัดเพชรบูรณ์

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A comparative study on cost and return on investment in burley tobacco early crop and glutinous rice cultivation in Phetchabun province

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

สนธิลักษณ์ สนเจริญ

Second Advisor

ชลอ ถาวรนันท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

บัญชีมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การบัญชี

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.511

Abstract

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีวิจัยในเชิงสำรวจ และได้สุ่มตัวอย่างง่ายเพื่อคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ฤดูฝน และกลุ่มปลูกข้าวเจ้ามากลุ่มละ 25 ฟาร์ม โดยปีเพาะปลูกที่ใช้ในการศึกษาคือปี 2530 /2531 ผลการสำรวจสรุปได้ว่า ต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ยต่อไร่ของการปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ฤดูฝนเท่ากับ 7,061.35 บาท ซึ่งมากกว่าข้าวเจ้าที่มีต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ยต่อไรเท่ากับ 1,908.50 บาท สำหรับอัตราผลตอบแทนซึ่งคำนวนจากกำไรต่อยอดขายนั้นพบว่า การปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ฤดูฝนมีอัตราตอบแทน 26.96% ขณะที่ข้าวเจ้ามีอัตราผลตอบแทนเพียง 21.80% ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ฤดูฝนคือปัญหาด้านการบ่มและคัดเกรดใบยาของเกษตรกร ซึ่งสามารถแก้ไขโดยให้หน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชนกำหนดคุณภาพใบยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งควรจัดให้มีตัวอย่างใบยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์เกรดต่างๆ ตามจุดที่มีการรับซื้อใบยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ในขณะที่ควรให้ข้อมูลและข่าวสารอย่างพอเพียง

Share

COinS