Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
ทิศทางของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2531-2545
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Directions of private higher education institutions from B.E. 2531 to 2545
Year (A.D.)
1989
Document Type
Thesis
First Advisor
สุชาติ ตันธนะเดชา
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
อุดมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1989.349
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทิศทางของสถาบันอุดมศึกษาใน 15 ปีข้างหน้า ในเรื่องของความเป็นเจ้าของ การลงทุน การบริหาร ความก้าวหน้าทางวิชาการและเอกลักษณ์ของสถาบัน โดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 2 กลุ่ม คือ ผู้บริหารระดับสูงของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนทั้ง 25 แห่ง จำนวน 25 คน และผู้ทรงคุณวุฒิทางการอุดมศึกษา 25 คน ผลการวิจัยพบว่า สถาบันอุดมศึกษาเอกชนใน 15 ปีข้างหน้า จะมุ่งพัฒนาทางด้านคุณภาพ สร้างชื่อเสียงของสถาบันเพื่อดึงดูดนักศึกษา มีการเปิดหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อสนองความต้องการของประเทศ แต่ยังคงเน้นหลักสูตรสังคมศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจที่เอกชนมีความถนัดและต้นทุนต่ำเป็นหลัก โดยที่หลักสูตรจะมีลักษณะแหวกแนวจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและมีเอกลักษณ์เฉพาะของสถาบันอุดมศึกษา เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานภาคเอกชน การศึกษาจะขยายในระดับบัณฑิตศึกษามากขึ้นการขยายตัวของสถาบัน และการขยายวิทยาเขตของสถาบันที่มั่นคงมีชื่อเสียงแล้วเป็นไปได้มาก ในเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ในเขตอุตสาหกรรมที่มีสภาพเศรษฐกิจดี ด้วยนักศึกษาและอาจารย์ส่วนใหญ่ยังมีค่านิยมพอใจที่จะอยู่ในกรุงฯ มากกว่าต่างจังหวัด ทิศทางในอนาคตของความเป็นเจ้าของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จะมีแนวโน้มเปลี่ยนจากเจ้าของคนเดียวมาเป็นเจ้าของแบบกลุ่มบุคคล โดยเฉพาะมูลนิธิมากขึ้นด้วย จะต้องแข่งกันระดมทุน เพื่อจัดการศึกษาที่มีคุณภาพจนเป็นที่ยอมรับเชื่อถือของประชาชนและได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชน การบริหารงานที่จะผสมผสานการใช้มืออาชีพมาบริหารมากขึ้น สถาบันอุดมศึกษาเอกชนประสบปัญหาหลายอย่างที่เกี่ยวกับนโยบายการศึกษาที่ไม่แน่นอนของรัฐและกฎระเบียบของทบวงมหาวิทยาลัยที่ควบคุมมาตรฐาน จนทำให้ขาดความคล่องตัวในการแก้ปัญหาตามสภาพของสถาบันแต่ละแห่ง และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสถาบัน เช่น เกณฑ์อัตราส่วนอาจารย์ประจำต่ออาจารย์พิเศษ การเก็บค่าเล่าเรียน การเตรียมอุปกรณ์ ภาษี อาคารสถานที่ และการลงทุน ทบวงมหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังรักษามาตรฐานอยู่ และได้จัดตั้งกองทุนให้สถาบันอุดมศึกษาเอกชนกู้ยืมระยะยาวไปพัฒนาสถาบันด้วยดอกเบี้ยต่ำ อีกทั้งยอมให้การจัดเก็บค่าหน่วยกิตลอยตัว และวางมาตรฐานการนำเงินรายได้กลับมาลงทุนเพื่อการศึกษา
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
จะสุวรรณ์, ศันสนีย์, "ทิศทางของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2531-2545" (1989). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 42736.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/42736