Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ศึกษาการบดอัดโดยวิธีทุบด้วยลูกตุ้มหนักของเขื่อนทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A compaction study by heavy tamping method at Tubsalao Dam, Uthai Thani Province

Year (A.D.)

1989

Document Type

Thesis

First Advisor

สุรพล จิวาลักษณ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิศวกรรมโยธา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1989.615

Abstract

การปรับปรุงคุณสมบัติของดินฐานรากโดยวิธีทุบด้วยลูกตุ้มหนักให้มีความแน่นเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้รับน้ำหนักของเขื่อนและลดอันตรายจากการ เกิดปรากฎการณ์สภาพเหลวเนื่องจากแผ่นดินไหวของเขื่อนทับเสลา ซึ่งมีพื้นที่ทำการปรับปรุงทั้งหมด 100,000 ตารางเมตร ปริมาตรทรายที่ทำการปรับปรุงประมาณ 600,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร ความหนาแน่นสัมพัทธ์ที่ต้องการหลังการบดอัดเท่ากับ 70% วิธีการทุบดินให้มีสภาพแน่นสูงขึ้น โดยใช้เครนยกลูกตุ้มหนัก 15-30 ตัน พื้นที่หน้าตัดสี่เหลี่ยมจัตุรัส 9 ตารางเมตร ยกสูง 22 เมตร ปล่อยให้ตกอิสระกระทบพื้นดิน เพื่อปรับปรุงสภาพความแน่นให้สูงขึ้น ผลที่ได้สามารถทำให้ชั้นทรายหลวมที่มีค่าความหนาแน่นสัมพัทธ์เฉลี่ยสัมพัทธ์เฉลี่ยก่อนการบดอัด 52% มีความหนาแน่นสัมพัทธ์ขึ้นเป็น 85% ค่าความลึกอิทธิพลเฉลี่ยเท่ากับ 11.73 เมตร, ค่าสัมประสิทธิ์แก้ไขเฉลี่ยเท่ากับ 0.456, อัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาตรทรายมีค่าเท่ากับ 16.5% องค์ประกอบที่สำคัญในการบดอัดได้แก่ เกณฑ์ความแน่นที่ต้องการหลังการบดอัด, ระดับน้ำใต้ดิน, ความหนาของชั้นทรายและขนาดคละของอนุภาค อย่างไรก็ตามหลังงานที่ใช้บดอัดชั้นทรายหลวมโดยวิธีทุบด้วยลูกตุ้มหนักของ เขื่อนทับเสลา มีค่าตั้งแต่ 105-500 ตัน.เมตร ต่อตารางเมตร

Share

COinS