Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

สมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เขตการศึกษา 10

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Appropriate equation for predicting academic achievement of mathayom suksa five students, educational region ten

Year (A.D.)

1989

Document Type

Thesis

First Advisor

ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1989.292

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาสมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เขตการศึกษา 10 โดยศึกษาสมการทำนายทั้งเชิงเส้นตรงและเชิงเส้นโค้ง โดยใช้กลุ่มตัวอย่างประชากรจำนวน 668 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นชั้นๆ ผลการวิจัยพบว่า 1. ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรวมทุกวิชา อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ความรู้พื้นฐานเดิม สติปัญญา แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ ทัศนคติในการเรียน นิสัยในการเรียน เวลาที่ใช้ในการศึกษา การเรียนพิเศษ ความคาดหวังในการศึกษาต่อ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน คุณภาพการสอน บรรยากาศในชั้นเรียน ประสบการณ์ในการสอนของครู และสภาพแวดล้อมทางบ้าน 2. สมการที่ใช้ทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในการวิเคราะห์ข้อมูลชุดนี้ได้ทดลองใช้สมการถดถอยเชิงเส้นโค้งกำลังสอง เปรียบเทียบกับสมการทำนายเชิงเส้นตรง โดยทั่วไปพบว่า ส่วนใหญ่สมการถดถอยเชิงโค้งกำลังสองให้ค่าสหสัมพันธ์พหุคูณสูงกว่า สมการถดถอยเชิงเส้นตรง ยกเว้นบางกรณี ซึ่งสามารถสรุปในแต่ละกรณีได้ ดังนี้ 1. เมื่อใช้ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นตัวทำนาย พบว่า สมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนส่วนใหญ่ คือ สมการทำนายเชิงเส้นโค้งกำลังสอง 2. เมื่อใช้ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นโค้งกำลังสองกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นตัวทำนาย พบว่าสมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่วนใหญ่คือ สมการทำนายทั้งเชิงเส้นตรงและเชิงเส้นโค้งกำลังสอง 3. เมื่อใช้ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงและเชิงเส้นโค้งกำลังสองเป็นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในอัตราส่วน 1:1 เป็นตัวทำนาย พบว่าสมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่วนใหญ่คือ สมการทำนายเชิงเส้นโค้งกำลังสอง 4. เมื่อใช้ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์ทั้งเชิงเส้นตรงและเชิงเส้นโค้งกำลังสองกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในอัตราส่วน 2:1 เป็นตัวทำนาย พบว่าสมการที่เหมาะสมในการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนส่วนใหญ่ คือ สมการทำนายเชิงเส้นโค้งกำลังสอง

Share

COinS