Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การหาปริมาณความเข้มข้นของตะกั่วในอากาศ โดยเทคนิคการการเรืองรังสีเอกซ์
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Determination of lead concentration in air using x-ray Fluorescence technique
Year (A.D.)
1989
Document Type
Thesis
First Advisor
ธัชชัย สุมิตร
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิวเคลียร์เทคโนโลยี
DOI
10.58837/CHULA.THE.1989.580
Abstract
ในการศึกษาหาปริมาณความเข้มข้นของตะกั่วในอากาศโดยเทคนิคการเรืองรังสีเอกซ์ระบบ EDX นั้นได้ใช้หัววัด เจอร์มาเนียมบริสุทธิ์สูง HPGe ORTEC MODEL CLP-06165 และอุปกรณ์วิเคราะห์สัญญาณแบบหลายช่อง MCA CANBEPPA SERIES-40 พบว่าต้นกำเนิดรังสีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการวิเคราะห์ตะกั่ว คือ Pu 238 โดยจัดระยะห่างระหว่างต้นกำเนิดรังสีกับตัวอย่างเท่ากับ 7 มิลลิเมตร และเวลาที่ใช้ในการนับรังสีเท่ากับ 2000 วินาที จากการวิเคราะห์ตัวอย่างอากาศ ซึ่งดูดโดยผ่านกระดาษกรองเมมเบรน (ชนิด AA) และกระดาษกรองเซลลูโลส (Whatman เบอร์ 42) ปรากฏว่าค่าต่ำสุดของตะกั่วที่วิเคราะห์ได้บนกระดาษกรองจากผลการทดลองมีค่าประมาณ 9 ไมโดรกรัมจากการเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์ระหว่างเทคนิคการเรืองรังสีเอกระบบ EDX, WDX และวิธีอะตอมมิดแอบสอร์ปซันสเปคโตรโฟโตเมตรี ปรากฏผลว่าวิธีทั้ง 3 ให้ผลทัดเทียมกันโดยมีระดับนัยสำคัญ .01 จากการออกเก็บตัวอย่างภาคสนามในโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งหนึ่งปรากฏว่าความเข้มข้นของตะกั่วในอากาศสูงที่สุดที่ตรวจวัดได้โดยระบบ EDX มีค่า 0.172 มิลลิกรัม / ลูกบาศก์เมตร (เฉลี่ย 8 ชั่วโมง) ในขณะที่เมื่อวิเคราะห์โดยวิธีอะตอมมิคแอบสอร์ปซันสเปคโตรโฟโตเมตร 2 เครื่อง คือ เครื่อง Perkin Elmer 4000 และเครื่อง Shimadzu AA650 ได้ค่า 0.153 และ 0.140 มิลลิกรัม / ลูกบาศก์เมตรตามลาดับ
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
ทิพย์มาลย์มาศ, สุนันทา, "การหาปริมาณความเข้มข้นของตะกั่วในอากาศ โดยเทคนิคการการเรืองรังสีเอกซ์" (1989). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 42254.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/42254