Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การชันสูตรพลิกศพกับการดำเนินคดีอาญา

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Post-mortem examination and criminal procedure

Year (A.D.)

1989

Document Type

Thesis

First Advisor

วีระพงษ์ บุญโญภาส

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1989.401

Abstract

การชันสูตรพลิกศพเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการดำเนินคดีอาญาที่มีการตายเกิดขึ้น เพราะการชันสูตรพลิกศพเท่านั้นจึงจะสามารถแสดงได้ว่า ผู้ตายเป็นใคร ตายมานานแล้วเท่าใด สาเหตุและพฤติการณ์ที่ตายคืออะไร วิทยานิพนธ์นี้ได้ศึกษาเน้นในเรื่อง การชันสูตรพลิกศพกับการดำเนินคดีอาญาของไทย โดยเน้นถึงในด้านความสัมพันธ์ของการชันสูตรพลิกศพกับแพทย์เป็นส่วนใหญ่ โดยเริ่มศึกษาในเรื่องของประวัติการชันสูตรพลิกศพซึ่งมีมานานแล้ว แต่ได้ปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น แต่บทบัญญัติของกฎหมายเรื่องการชันสูตรพลิกศพโดยตรงฉบับแรกคือ “พระราชบัญญัติชันสูตรพลิกศพพุทธศักราช 2457" ซึ่งต่อมาเมื่อได้มีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้วบทบัญญัติในเรื่องการชันสูตรพลิกศพก็คงมีอยู่โดยบัญญัติในมาตรา 148 – 156 แม้ว่าจะมีการแก้ไขหลายครั้ง แต่ก็มิได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากนัก ส่วนในเรื่องการดำเนินคดีอาญากับการชันสูตรพลิกศพนั้น เห็นได้ชัดว่าประเทศไทยใช้ระบบตำรวจ กล่าวคืออำนาจสิทธิขาดในการจัดให้มีการชันสูตรพลิกศพขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนเท่านั้น และวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบในเรื่องการชันสูตรพลิกศพในมาตรา 129 ซึ่งมีการชันสูตรพลิกศพก่อนฟ้องนั้น ไม่มีผลบังคับมากนัก เนื่องจากศาลมิได้ตีความมาตรานี้อย่างเคร่งครัด จึงทำให้เห็นได้ว่าเป็นข้อบกพร่องและกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมในสังคมได้ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจได้กว้างเกินไปและขาดการควบคุมที่ดีพอ นอกจากนี้การที่มาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาจัดฐานะของแพทย์ผู้ทำการชันสูตรพลิกศพเป็นเพียง “ผู้ช่วยเหลือพนักงานสอบสวน" ก็ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบความจริงโดยการชันสูตรพลิกศพด้อยลงไปอีกมาก ซึ่งในเรื่องนี้สามารถจะแก้ไขได้โดยให้แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพมีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน, ใช้แพทย์ปริญญา, ใช้แพทย์ในท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ และให้กระทำการชันสูตรพลิกศพพร้อมกับพนักงานสอบสวนเสมอ, และจากการศึกษาพบอีกว่าแพทย์เอกชนไม่อยู่ในฐานะที่จะร่วมชันสูตรพลิกศพกับพนักงานสอบสวนได้ ทำให้เห็นว่าระเบียบของกรมตำรวจว่าด้วยอำนาจหน้าที่ในการชันสูตรพลิกศพ ในปี พ.ศ. 2527 และ 2528 นั้นขัดกับกฎหมายหลักในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา มาตรา 150 นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าแพทย์ผู้ทำการชันสูตรพลิกสูตรพลิกศพตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญานั้น อยู่ในฐานะ “ประจักษ์พยาน" ซึ่งต่างจากแพทย์ในมาตรา 151 ซึ่งเป็น “พยานผู้ชำนาญการพิเศษ"

Share

COinS