Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การบริหารการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งตะวันออก : กรณีศึกษาในประเด็นของการนำนโยบายการให้เอกชนบริหาร และประกอบการท่าเรือแหลมฉบังไปปฏิบัติ

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Eastern Seaboard development administration : a case study in policy implementation of the privatisation of Laem Chabang Port

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

ติน ปรัชญพฤทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

รัฐประศาสนศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.519

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล ตะวันออก โดยศึกษาเฉพาะประเด็นของการนำนโยบายการให้เอกชนบริหารและประกอบการท่าเรือแหลมฉบังไปปฏิบัติซึ่งใช้ตัวแบบการนำนโยบายไปปฏิบัติมาเป็นแนวทางในการศึกษา โดยมีขอบเขตของการวิจัยครอบคลุมถึงผลที่เกิดขึ้นจากการกำหนดและการนำนโยบายไปปฏิบัติ และปัจจัยต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการนำนโยบายไปปฏิบัติ สำหรับด้านวิธีการวิจัยได้ใช้การศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์ และการเข้าไปทำการสำรวจ เป็นวิธีการในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า ในการนำนโยบายการให้เอกชนบริหารและประกอบการท่าเรือแหลมฉบังไปปฏิบัติ ได้รับการคัดค้านจากสหภาพแรงงานในการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพราะฝ่ายสหภาพแรงงานมีความเห็นว่าสาระสำคัญของนโยบายเป็นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จึงมีผลทำให้รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนสาระของนโยบายใหม่ สำหรับตัวแปรหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลดังกล่าว ได้แก่ (1) สาระสำคัญหรือมาตรฐานและวัตถุประสงค์ของนโยบาย (2) สภาพแวดล้อมทางการเมือง (3) สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม และ (4) การติดต่อสื่อสารและการใช้อำนาจหน้าที่บังคับให้มีการปฏิบัติตาม โดยตัวแปรสาระสำคัญหรือมาตรฐานและวัตถุประสงค์ของนโยบาย กับตัวแปรสภาพแวดล้อมทางการเมือง มีอิทธิพลต่อผลการนำนโยบายไปปฏิบัติมากที่สุด นอกจากนั้นยังพบว่า ตัวแบบการนำนโยบายไปปฏิบัติ มีประโยชน์ต่อการบริหารการพัฒนา ทั้งในด้านวิชาการและด้านปฏิบัติ จากผลการวิจัยดังกล่าว ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ เพื่อให้การนำนโยบายที่ได้ปรับเปลี่ยนสาระของนโยบายใหม่ไปปฏิบัติให้บรรลุผลไว้ดังนี้ (1) รัฐบาลโดยคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก(กพอ.) จะต้องเข้ามาติดตามและประเมินผลการบริหารท่าเรือแหลมฉบังของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (2) รัฐบาลในฐานะผู้กำหนดและผู้นำนโยบายไปปฏิบัติ จะต้องไม่กระทำการอันใดที่ส่อว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ (3) ควรมีการทบทวนการนำ พรบ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาบังคับใช้กับรัฐวิสาหกิจ และ (4) ควรดำเนินการแก้ไข พรบ. การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป

Share

COinS