Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การบริหารงานวิชาการในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดนครราชสีมา ที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Academic administration of elementary schools with high learning achievement students under the jurisdiction of the office of Nakhon Ratchasima provincial primary education

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

สนานจิตร สุคนธทรัพย์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

บริหารการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.148

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา ที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ผลการวิจัยพบว่า สภาพการบริหารงานวิชาการซึ่งสรุปจากเรื่องที่ผู้ให้สัมภาษณ์ระบุโดยมีความถี่สูงสุดมีดังนี้ 1. ด้านหลักสูตรและการนำหลักไปใช้ โรงเรียนส่วนใหญ่มีเอกสารหลักสูตรตามเกณฑ์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเจ้าสังกัดแจกให้ ส่วนการนำไปใช้โรงเรียนจัดให้มีเอกสารหลักสูตรและสื่ออย่างเพียงพอและให้ครูศึกษาด้วยตนเอง ประเมินความเข้าใจจากการสังเกตการใช้สื่อ วิธีวัดประเมินผลผลสัมฤทธิ์และลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสูตรและโรงเรียนได้ปรับปรุงแผนการสอน กลุ่มการงานและพื้นฐานอาชีพให้สอดคล้องกับท้องถิ่น 2. ด้านการเรียนการสอน โรงเรียนส่วนใหญ่ผู้บริหารและครูจัดตารางสอน โดยจัดให้คาบเวลาเรียนยืดหยุ่นได้ จัดครูเข้าสอนตามความสามารถและประสบการณ์ จัดห้องเรียนแบบคละกัน ส่วนการจัดกลุ่มจัดให้เพื่อนช่วยเพื่อน ผู้บริหารส่งเสริมให้ครูปรับปรุงการสอนโดยนิเทศเป็นประจำ ให้ครูเตรียมการสอนโดยบันทึกการสอนล่วงหน้า และประเมินการสอนจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่วนการสอนซ่อมเสริมจัดสอนเป็นกลุ่มย่อย 3. ด้านวัสดุประกอบหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน โรงเรียนส่วนใหญ่จัดหาสื่อโดยซื้อจากเงินงบประมาณ และส่งเสริมการใช้โดยให้ครูบันทึกการสอนล่วงหน้า และประชุมชี้แจงให้เห็นความสำคัญ นิเทศการใช้สื่อโดยให้ครูศึกษาเอง และประเมินผลการใช้สื่อจากผลสัมฤทธิ์ 4. ด้านวัดและประเมินผล โรงเรียนส่วนใหญ่เตรียมครูโดยส่งเข้ารับการอบรม และให้คำแนะนำปรึกษาหารือ โรงเรียนอำนวยความสะดวก โดยจัดทำเครื่องมือและแบบทดสอบให้ สนับสนุนให้ครูนำผลไปใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติและสอนซ่อมเสริม และจัดทำสถิติข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินผล 5. ด้านห้องสมุดโรงเรียนส่วนใหญ่สำรวจความต้องการโดยประชุมครู ส่งเสริมให้เด็กใช้บริการโดยใช้กิจกรรมสอนข่าว มอบหมายให้ครูเป็นบรรณารักษ์แล้วจัดเวรนักเรียนผลัดกันรับผิดชอบ มีการเปิดบริการระหว่างพักกลางวัน โรงเรียนได้รับหนังสือจากเจ้าสังกัดเป็นครั้งคราว และประเมินการใช้ห้องสมุดจากบันทึกการใช้ 6. ด้านการนิเทศการศึกษา โรงเรียนส่วนใหญ่ศึกษาสภาพและความต้องการโดยปรึกษาหารือกับคณะครู วิธีการนิเทศใช้การให้คำปรึกษาหารือ สร้างสื่อนิเทศและให้ครูนิเทศซื่งกันและกัน และประชุมเพื่อให้ครูนำผลการนิเทศมาปรับปรุงการเรียนการสอน 7. ด้านการวางแผนและกำหนดวิธีการดำเนินงาน โรงเรียนส่วนใหญ่มีการกำหนดนโยบายบริหารงานวิชาการโดยคณะครูและผู้บริหาร มีการทำโครงการรองรับตามสภาพปัญหา โรงเรียนได้รับงบประมาณตามแผนแต่ประมาณร้อยละไม่ได้ สนับสนุนให้ครูทุกคนร่วมวางแผนกำหนดวัตถุประสงค์ ประชุมชี้แจงโครงการเพื่อกำกับและประเมินผลหลังจากปฏิบัติตามแผน 8. ด้านส่งเสริมการสอน โรงเรียนส่วนใหญ่จัดกิจกรรมส่งเสริมการสอนตามที่เจ้าสังกัดกำหนด โดยจัดตามสภาพความพร้อม ส่งครูเข้าอบรม สนับสนุนให้ครูมีส่วนร่วม โดยเสนอความคิดเห็นในการกำหนดกิจกรรมโดยตรงมอบหมายงานตามความสามารถและประสบการณ์ ผู้บริหารประเมินการจัดจากผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรม โดยสังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมของครูและนักเรียน 9. ด้านการประชุมอบรมทางวิชาการ โรงเรียนส่วนใหญ่มีการสำรวจความต้องการของครู และพิจารณาความจำเป็นจากการประชุมสอบถามและจัดทำโครงการอบรมให้ตรงกับความจำเป็น โดยจัดร่วมกับกลุ่มโรงเรียน และส่งเสริมให้เข้าร่วมประชุมอบรมโดยอำนวยความสะดวกในการสมัครและติดต่อที่พักให้ ส่วนการติดตามและประเมินผลให้ครูที่เข้าอบรมถ่ายทอดความรู้แก่คนอื่น ปัญหาการบริหารงานแต่ละด้านที่มีผู้ระบุโดยมีความถี่สูงสุดได้แก่ 1. ครูไม่เข้าใจหลักสูตร 2. ครูไม่ครบชั้นเรียน 3. สื่อการเรียนการสอนไม่เพียงพอ 4. ข้อสอบไม่ได้มาตรฐานและไม่ครอบคลุมเนื้อหา 5. หนังสือในห้องสมุดมีน้อย 6. ได้รับการนิเทศจากศึกษานิเทศก์อำเภอน้อยครั้ง 7. ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ครบทุกโครงการ 8. ครูบางคนไม่เอาใจใส่จัดกิจกรรมส่งเสริมการสอน 9. ครูบางคนไม่ต้องการเข้าอบรม

Share

COinS