Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาลักษณะเฉพาะและพัฒนาการของโครงข่ายการสัญจร และพื้นที่ปลูกสร้างในบริเวณนครเชียงใหม่

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

A study of characteristics and development of transportation net work and built up area in the City of Chiang Mai

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

ขวัญสรวง อติโพธิ

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวางแผนภาคและเมือง

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.38

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะค้นหาลักษณะเฉพาะและพัฒนาการของโครงข่ายการสัญจรและพื้นที่ปลูกสร้างในบริเวณนครเชียงใหม่ ประเมินคุณค่าของลักษณะเฉพาะเชิงผังเมืองเพื่อนำผลการศึกษาที่ได้มาเป็นข้อมูลสำหรับการวางผังเมืองเชียงใหม่ และเสนอให้นำวิธีการศึกษาที่คิดค้นขึ้นมาทดลองเทียบเคียงใช้กับการศึกษาเมืองอื่นๆ ต่อไป ผลการวิจัยพบว่า พัฒนาการทางกายภาพของเมืองเชียงใหม่แบ่งออกเป็น 4 ยุค คือ เมื่อเริ่มก่อรูปพ.ศ.1804-1839 ยุคอดีตพ.ศ.1839-2397 ยุคการเปลี่ยนแปลงพ.ศ.2397-2476 และยุคปัจจุบันพ.ศ. 2476-2532 3 ยุคแรกของพัฒนาการ เมืองเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างช้าๆ เคลื่อนไหวไปทั้งทางบวกและทางลบ แต่ก็ยังคงมีระเบียบแบบแผนและวินัยอยู่ในทิศทางเดียวกันตลอด ทั้งนี้เพราะมีเหตุการณ์ของโลกแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน ลักษณะเฉพาะที่เด่นชัดของเมืองทั้ง 3 ยุค คือ การมีทำเลที่ตั้งเมืองที่ดีที่สุดในภูมิภาคแบบเหนือ การเป็น “เมืองเตี้ย" และ “วนานคร" ที่มีขนาดพอเหมาะ มี “ชั้นเชิง" ของการวางผัง มีความหลากหลายของลักษณะโครงข่ายการสัญจรและพื้นที่ปลูกสร้างอันมีเหตุผลและความเป็นมาที่ชัดเจน และทั้งหมดนี้สามารถตอบสนองต่อความสุขของผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง ในยุคปัจจุบันนี้เองที่พัฒนาการของเมืองเชียงใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากการเข้ามาจัดการของรัฐบาลภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยเฉพาะการกำหนดให้เมืองเชียงใหม่เป็นเมืองหลักของภาคเหนือตอนบนที่มีฐานเศรษฐกิจอยู่ที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การขยายตัวอย่างรวดเร็วทั้งทางแนวดิ่งและแนวราบมีผลให้โครงข่ายการสัญจร และพื้นที่ปลูกสร้างแผ่กระจายเลอะออกไปโดยรอบ ก่อให้เกิดปัญหาการทำลายเอกลักษณ์ของเมือง ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหามลภาวะ ฯลฯ รวมทั้งปัญหาการบุกรุกพื้นที่เกษตรกรรมชานเมืองและพื้นที่ป่าที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารด้วยผู้วิจัยมีความเห็นว่า เราไม่สามารถหยุดยั้งความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้ แต่ขณะเดียวกันก็เชื่อว่า เราสามารถควบคุมและชักจูงผลของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจให้มุ่งไปในทางที่สมควรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรักษาเอกลักษณ์และมรดกของการสร้างสรรค์จากอดีตไว้ให้เจริญเติบโตไปพร้อมๆ กับการพัฒนา ด้วยวิธีการทางผังเมือง

Share

COinS