Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การพัฒนาแบบวัดความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Development of honesty scale for prathom suksa six students

Year (A.D.)

1991

Document Type

Thesis

First Advisor

อุทุมพร จามรมาน

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

การวัดและประเมินผลการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1991.108

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบวัดความซื่อสัตย์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบวัดความซื่อสัตย์นี้สร้างเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบสถานการณ์ข้อความ และแบบสถานการณ์ภาพ แบบละ 20 ข้อ ใช้เวลาตอบทั้งหมด 50 นาที กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2532 ในเขตจังหวัดลพบุรี จำนวน 991 คน จากประชากร 46,939 คน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ความเที่ยงแบบความสอดคล้องภายใน คำนวณค่าโดยวิธีสัมประสิทธิ์อัลฟา (Alpha Coefficient) ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ .7027 2. ความตรงตามโครงสร้าง คำนวณโดยวิธีวิเคราะห์ตัวประกอบด้วยการสกัดตัวประกอบด้วยวิธี PC (Principal Component Analysis) หมุนแกนแบบออโธกอนอล (Orthogonal) ด้วยวิธี แวริแมกซ์ (Varimax) ได้ตัวประกอบที่สำคัญ 8 ตัวประกอบ ซึ่งวัดคุณลักษณะด้านความซื่อสัตย์ คือ 1. การยอมรับผิดและการปฏิบัติตามคำสั่ง 2. การตรงต่อเวลานัดหมาย 3. การตรงต่อเวลาทำงาน 4. การปฏิบัติตามสัญญา 5. การปฏิบัติตามข้อตกลง 6. การไม่เอาเงินของผู้อื่น 7. การไม่เอาของผู้อื่น 8. การพูดความจริง 3. ความตรงตามเกณฑ์ คำนวณค่าโดยวิธีสหสัมพันธ์แบบพอยท์ไบซีเรียล (Point Biserial Correlation) ระหว่างคะแนนจากแบบวัดกับลักษณะความซื่อสัตย์ที่ประเมินด้วยการสังเกตของครู ได้ค่าความสัมพันธ์ เท่ากับ .490 และมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ความตรงเชิงจำแนก คำนวณด้วยวิธีการทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยรายข้อจากแบบวัดความซื่อสัตย์ของกลุ่มนักเรียนที่มีความซื่อสัตย์สูงกับกลุ่มที่มีความซื่อสัตย์ต่ำ ที่จำแนกด้วยการสังเกตพฤติกรรมโดยครูประจำชั้น ด้วยสถิติทดสอบที (t-test) ปรากฏว่า คะแนนเฉลี่ยของข้อกระทงทุกข้อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Share

COinS