ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะผู้เรียนกับการอ่านในใจ ที่มีและไม่มีดนตรีคลอ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Relationships between student characteristics and silent reading with and without music background upon reading achievement of prathom suksa six students

Author

สุธาตุ ติงสะ, บัณฑิตวิทยาลัย

Year (A.D.)

1991

Document Type

Thesis

First Advisor

วิรุฬห์ ลีลาพฤทธิ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

โสตทัศนศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1991.83

Abstract

การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง ระดับการเรียน เพศ อาชีพผู้ปกครอง ฐานะรายได้ของผู้ปกครอง ความชอบดนตรีกับผลสัมฤทธิ์จากการอ่านในใจที่มีและไม่มีดนตรีคลอ ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 และหากลุ่มตัวพยากรณ์ที่ดีที่สุด เพื่อนำมาสร้างสมการพยากรณ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มนักเรียนที่อ่านในใจที่มีดนตรีคลอมีคะแนนผลสัมฤทธิ์สูงกว่ากลุ่มนักเรียนที่อ่านในใจไม่มีดนตรีคลอ ระดับการเรียน เพศ และผู้ปกครองมีอาชีพค้าขาย มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนจากการอ่านในใจที่มีดนตรีคลออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r=0.2651, 0.1659 และ 0.1397) ตัวพยากรณ์ ระดับการเรียน เพศ มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านอย่างมี นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้ปกครองที่มีอาชีพค้าขาย มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จากการอ่านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระดับการเรียน เพศ และผู้ปกครองที่มีอาชีพค้าขาย สามารถร่วนกันอภิปรายความแปรปรวนของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านในใจได้ร้อยละ 11.72 % (R = 0.3423) และได้สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐานดังนี้ Z’ = 0.2659Gₚₐ + 0.1729Zₛₑₓ + 0.1325ZₜᵣₐDₑ ระดับการเรียนและเพศ มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านในใจที่ไม่มีดนตรีคลอ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = 0.3629 และ 0.23427) ตัวพยากรณ์ ระดับการเรียน เพศ มี ความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านในใจที่ไม่มีดนครีคลออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้ปกครองที่มีอาชีพค้าขาย มีความสัมพันธ์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านในใจที่ไม่มีดนตรี คลออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ระดับการเรียนและเพศ สามารถร่วมกันอภิปรายความแปรปรวน ของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการอ่านในใจที่ไม่มีดนตรีคลอได้ร้อยละ 19.58 % (R = 0.5038) และได้สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐานดังนี้ Z’ = 0.3755Z Gₚₐ + 0.2439Zₛₑₓ

Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.

Recommended Citation

ติงสะ, สุธาตุ, "ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะผู้เรียนกับการอ่านในใจ ที่มีและไม่มีดนตรีคลอ ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6" (1991). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 40815.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/40815