Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การปรับปรุงสายพันธุ์ Streptomyces sp. 190-1 ที่ผลิตกลูโคลไอโซเมอเรส โดยการเชื่อมโปรโตพลาสท์กับ Streptomyces sp. 42-9 ที่ผลิตไซแลนเนส
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Strain improvement of glucose isomerase producing Streptomyces sp.190-1 by protoplast fusion with xylanase producing Streptomyces sp.42-9
Year (A.D.)
1991
Document Type
Thesis
First Advisor
ไพเราะ ปิ่นพานิชการ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
เทคโนโลยีชีวภาพ
DOI
10.58837/CHULA.THE.1991.588
Abstract
งานวิจัยนี้รายงานวิธีการปรับปรุงสายพันธุ์ Streptomyces sp.190-1 ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ผลิตกลูโคสไอโซเมอเรสได้สูงประมาณ 1200 หน่วยต่อกรัม น้ำหนักแห้ง ให้ผลิตไซแลนเนสได้ด้วย โดยการเชื่อมโปรโตพลาสท์กับ Streptomyces sp.42-9 ที่ผลิตไซแลนเนส ทั้งนี้เพราะ การผลิตกลูโคสไอโซเมอเรส ต้องการไซโลสเป็นการชักนำ ถ้าจุลินทรีย์นี้ผลิตไซแลนเนสได้ก็จะสามารถเจริญได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อ ซึ่งมีวัสดุทีมีไซแลนเป็นองค์ประกอบ โดยจะย่อยไซแลนไปเป็นไซโลส และมีผลชักนำการสร้างกลูโคสไอโซเมอเรส ผลการศึกษาปัจจัยต่างๆ ต่อการสร้างและการรีเจนเนอเรทโปรโตพลาสท์ของเชื้อทั้งสอง พบว่า การเติมไกลซีนลงในอาหารเลี้ยงเชื้อ ไม่มีผลต่อการเกิดโปรโตพลาสท์ของเชื้อทั้งสอง แต่มีผลยับยั้งการเจริญของเซลล์ นอกจากนั้นพบว่า อายุของเชื้อไม่มีผลต่อการรีเจนเนอเรทโปรโตพลาสท์ โดยพบว่า ไมซีเลียมของทั้ง Streptomyces sp.190-1 และ Streptomyces sp.42-9 ที่ช่วงอายุ 50-55 ชั่วโมง เป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการเตรียมโปรโตพลาสท์ โดยให้ความถี่ของการรีเจนเนอเรทสูงสุด คือ 12.83% สำหรับ Streptomyces sp.190-1 และ 1.60% สำหรับ Streptomyces sp.42-9 การคัดเลือกลูกผสมโดยใช้ความสามารถในการต้านยาเตตราชัยคลินร่วมกับแอมพิซิลิน พบว่าความถี่ของรีคอมบีเนชัน โดยการเชื่อมโปรโตพลาสท์และการคอนจูเกชัน ระหว่าง Streptomyces sp.190-1 กับ Streptomyces sp.42-9 มีค่าเป็น 1.46 x 10⁻³ และ 4.54 x 10⁻⁷ ตามลำดับ ส่วนความถี่ของรีคอมบิเนชัน โดยการเชื่อมโปรโตพลาสท์และคอนจูเกชัน ระหว่าง Streptomyces sp.190-1 กับ Streptomyces sp.42-9 ที่ได้รับพลาสมิด PIJ 4027 ซึ่งมียีนต้านยาอิริโทรมัยซิน มีค่าสูงขึ้นเป็น 4.15 x 10⁻² และ 8.41 x 10⁻⁶ ตามลำดับ เมื่อคัดเลือกลูกผสมโดยใช้ความสามารถในการต้านยาเตตราซัยคลินร่วมกับอีริโทรมัยซิน จากการสุ่มตัวอย่างลูกผสมมา 60 สายพันธุ์ พบว่ามี 20 สายพันธุ์ผลิตเอนไซม์กลูโคสไอโซเมอเรสได้ในช่วง 600 – 900 หน่วยต่อกรัมน้ำหนักแห้งของเซลล์ และพบว่าทั้ง 20 สายพันธุ์นี้ ผลิตไซแลนเนสได้อยู่ในช่วง 0.30 – 1.04 หน่วยต่อ มล. เมื่อเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อที่มีกากรำข้าวเป็นองค์ประกอบ และเมื่อเลี้ยงในอาหารที่มีไซแลนเป็นองค์ประกอบจะผลิตไซแลนเนสได้อยู่ในช่วง 3.97 – 8.64 หน่วยต่อ มล.
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
อินทรเสน, วรางคณา, "การปรับปรุงสายพันธุ์ Streptomyces sp. 190-1 ที่ผลิตกลูโคลไอโซเมอเรส โดยการเชื่อมโปรโตพลาสท์กับ Streptomyces sp. 42-9 ที่ผลิตไซแลนเนส" (1991). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 40740.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/40740