Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

การศึกษาทางคลินิกเชิงเปรียบเทียบระหว่างยาอะดรีนาลิน และยาไนเฟดิปิน กับยาอะดรีนาลิน ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหอบหืดเฉียบพลัน

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Comparative clinical study between adrenaline plus nifedipine and adrenaline plus placebo in the treatment of acute asthmatic attacks

Year (A.D.)

1990

Document Type

Thesis

First Advisor

ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

อายุรศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1990.645

Abstract

เพื่อศึกษาฤทธิ์การขยายหลอดลมของยาไนไฟดิปีน ได้ทำการศึกษาชนิด Randomized double- blind clinical trial ในผู้ป่วยโรคหอบหืดเฉียบพลัน ที่มีรับการตรวจรักษา ณ ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวน 30 ราย ผู้ป่วยกลุ่มควบคุมจำนวน 16 ราย ได้รับยาอะตรีนาลิน ขนาด 1:1000 ปริมาณ 0.4 มล. ฉีกเข้าใต้ผิวหนัง โดยผู้ป่วยกลุ่มทดลองจำนวน 14 คน ได้รับยาไนเฟดิปีนขนาด 20 มก. อมใต้ลิ้น ร่วมกับยาอะดรีนาลินดังกล่าวได้ทำการตรวจวัด spirometry ที่ 0, 15, 30, 45, 60, 90 และ 120 นาที หลังการให้ยาตามลำดับ ค่า FVC%, FEV1 และ PEFR% ของค่ากากคะเน ในผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ค่าเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของ FEV1 และ PEFR ในกลุ่มควบคุมหลังจากให้ยา 30 นาที เท่ากับ 60.13±66.05% และ 70.22±76.29% ซึ่งไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากค่า 41.55±34.80% และ 54.76±53.16% ของกลุ่มทดลอง ผู้ป่วยกลุ่มควบกุมจำนวน 10 ใน 16 รายต้องได้รับยาอะดรีนาลินซ้ำ ในขณะที่กลุ่มทดลองมีเพียง 4 ใน 14 รายที ต้องการยาซ้ำ ความดันโลหิตในกลุ่มทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากให้ยา 90 นาที ตลอดการวิจัย ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงจากการให้ยาดังกล่าว การวิจัยนี้สรุปว่ายาไนเฟดิปีนไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขยายหลอกลมของยาอะดรีนาลิน

Share

COinS