Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติของลูกเสือและเนตรนารี ต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีกับมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดี ในระบอบประชาธิปไตย

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

The relationships between boy scounts and girl guides' attitude towards learning boy scout-girl guide subject and concepts of citizenship in domocracy

Year (A.D.)

1983

Document Type

Thesis

First Advisor

ทวีวัฒน์ ปิตยานนท์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

วิจัยการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1983.245

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารี และศึกษามโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยของลูกเสือและเนตรนารีในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตลอดจนศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีกับมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตย และเปรียบเทียบสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีกับมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีของลูกเสือและเนตรนารี กลุ่มตัวอย่างประชากรทั้งหมด 527 คน เป็นนักเรียนที่เรียนลูกเสือ 265 คน เนตรนารี 262 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร เครื่องมือในการวิจัยคือแบบวัดทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารี จำนวน 40 ข้อ ซึ่งผู้วิจัยสร้างตามมาตรวัดทัศนคติของลิเคอท (Likert type Scales) และแบบวัดมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยซึ่งดัดแปลงมาจากของวารี แสนสุข จำนวน 40 ข้อ ในการรวบรวมข้อมูลได้นำแบบวัดทั้งสองชุดไปทดสอบกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างประชากรจากนั้นนำผลที่ได้มาตรวจและวิเคราะห์ข้อมูลโดยการเปรียบเทียบระดับทัศนะคติและระดับมโนทัศน์ กับเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และทดสอบนัยสำคัญทางสถิติของคะแนนทัศนคติและคะแนนมโนทัศน์แยกตามเพศด้วยค่าสถิติที (t-test) ตลอดจนหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทัศนคติและคะแนนมโนทัศน์ของลูกเสือและเนตรนารีโดยหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และเปรียบเทียบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์โดยใช้ Fisher’s Z-transformation ผลการวิจัยพบว่า 1. ลูกเสือมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีร้อยละ 53.59 ของจำนวนลูกเสือทั้งหมดในกลุ่มที่ศึกษา และเนตรนารีมีทัศนัคติที่ดีต่อการเรียนวิชานี้ร้อยละ 57.25 ของจำนวนเนตรนารีทั้งหมดในกลุ่มที่ศึกษา เมื่อทดสอบกับเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้เกี่ยวกับระดับความเห็นของผู้ที่จะถือได้ว่ามีทัศนคติที่ดีพบว่า ลูกเสือได้ระดับคะแนนเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกับเกณฑ์คือไม่ต่ำกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ส่วนเนตรนารีได้คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 2. ลูกเสือมีมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในลักษณะที่แยกออกไปเป็นสองกลุ่มและมีจำนวนในระดับที่ต่ำและสูงใกล้เคียงกัน โดยอยู่ในระดับต่ำเป็นจำนวนมากกว่าระดับสูงเล็กน้อย คืออยู่ในระดับต่ำร้อยละ 39.49 และอยู่ในระดับสูงร้อยละ 37.38 ของลูกเสือทั้งหมดในกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา แต่เนตรนารีส่วนใหญ่จะมีมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีอยู่ในระดับสูงคือมีจำนวนร้อยละ 59.54 ของเนตรนารีทั้งหมด เมื่อทดสอบกับคะแนนที่เป็นเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้เกี่ยวกับระดับมโนทัศน์ของผู้ที่ควรจะถือได้ว่ามีมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีอยู่ในระดับสูง พบว่าลูกเสือได้คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนเนตรนารีได้คะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์อย่างไม่มีนัยสำคัญที่ระดับ .05 3. ลูกเสือเนตรนารีมีทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีไม่แตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญ .05 4. ลูกเสือและเนตรนารีมีมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยแตกต่างกันอย่างมีนัยที่สำคัญที่ระดับ .05 โดยเนตรนารีมีมโนทัศน์สูงกว่าลูกเสืออย่างมีนัยสำคัญ 5. สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีกับมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยของลูกเสือและเนตรนารีมีค่าเท่ากับ 0.3995 และ0.3361 ตามลำดับ ทั้งสองค่านี้มีนัยสำคัญที่ระดับ .05 แต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ 6. ทัศนคติต่อการเรียนวิชาลูกเสือเนตรนารีของลูกเสือและเนตรนารี มีความสัมพันธ์ในด้านบวกกับมโนทัศน์ความเป็นพลเมืองดีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ 0.3173

Share

COinS