Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
แนวโน้มของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยศึกษาของไทยในปีพุทธศักราช 2544
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Trends of the Thai early childhood education organization in B.E 2544
Year (A.D.)
1991
Document Type
Thesis
First Advisor
อำไพ สุจริตกุล
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
ประถมศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.1991.246
Abstract
วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาแนวโน้มของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยศึกษาของไทยในปีพุทธศักราช 2544 ตามทรรศนะของผู้เชี่ยวชาญด้านปฐมวัยศึกษา จำนวน 26 คน โดยใช้เทคนิคเดลฟาย ผลการวิจัยปรากฏว่า 1. ด้านนโยบาย จะต้องระบุแผนพัฒนาประชากรในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติให้ชัดเจน เน้นความสำคัญในการให้ความรู้แก่พ่อแม่ในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูเด็ก สนับสนุนให้ชุมชนองค์กรท้องถิ่นจัดศูนย์พัฒนาเด็กในชุมชนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสต่างๆ ในการรับบริการทางการศึกษา โดยรัฐบาลขยายโอกาสทางการศึกษาระดับนี้เพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง ระหว่างหน่วยงานที่จัดจะมีการประสานงานทางวิชาการ และการใช้ทรัพยากรร่วมกันมากขึ้น และรัฐส่งเสริมงบประมาณตามความจำเป็น 2. คุณลักษณะของเด็กปฐมวัยที่พึงประสงค์คาดว่า จะมีสุขภาพกายสมบูรณ์ รู้จักใช้ทักษะในการแสวงหาความรู้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา เสียสละ มีสุขภาพจิตดีมีลักษณะผู้นำ เชื่อมั่นในตนเอง มีบุคลิกภาพที่ดี สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ 3. รูปแบบของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยศึกษา ส่งเสิรมให้จัดศูนย์พัฒนาเด็กขึ้นในสถานประกอบการของรัฐและเอกชน ขยายชั้นเด็กเล็กในโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐทุกโรง ส่งเสริมการให้ความรู้ผ่านทางครอบครัวและศูนย์พัฒนาเด็กเคลื่อนที่ รัฐยังคงส่งเสริมให้เอกชนจัดชั้นอนุบาลในชุมชนเมืองแต่เอกชนจะหันมาสนใจจัดสถานบริการเด็กแรกเกิด – 3 ปี มากขึ้น และรัฐสนับสนุนให้มีการจัดการเรียนร่วมระหว่างเด็กปกติกับเด็กที่มีความบกพร่องในด้านต่างๆ 4. มีคณะกรรมการกลางจากหน่วยงานต่างๆ ที่จัดการศึกษาระดับปฐมวัย กำหนดมาตรฐานการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย โดยจัดทำแนวการจัดประสบการณ์ การนิเทศติดตามผลการผลิตและการพัฒนาบุคลากรและการจัดอาคาร สถานที่ ให้สอดคล้องกันทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษาระดับนี้ให้มากที่สุด 5. พ่อแม่จะมีเวลาให้กับเด็กน้อยลง และจะพึ่งบริการในการเลี้ยงดูเด็กของเอกชนมากขึ้น แต่พ่อแม่จะมีความรู้และเห็นความสำคัญของเด็กมากขึ้น จึงเลือกใช้สถานบริการที่มีคุณภาพดี และให้ความร่วมมือกับสถานบริการในการพัฒนาเด็ก
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
เหมือนมงคลกุล, สาลี่, "แนวโน้มของการจัดการศึกษาระดับปฐมวัยศึกษาของไทยในปีพุทธศักราช 2544" (1991). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 39278.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/39278