Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับข้อตกลงการค้ามันสำปะหลังระหว่างไทย และประชาคมยุโรป

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Legal Prlblems of Thailand-EC Cassava Trade Agreement

Year (A.D.)

1992

Document Type

Thesis

First Advisor

สุรเกียรติ์ เสถียรไทย

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

นิติศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

นิติศาสตร์

DOI

10.58837/CHULA.THE.1992.448

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหากฎหมายที่เกิดขึ้นจากการที่ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงการค้ามันสำปะหลังกับประชาคมยุโรป ตลอดจนศึกษาวิวัฒนาการของการทำข้อตกลง VER ความเป็นมาของการค้ามันสำปะหลังระหว่างไทยและประชาคมยุโรป สถานะภาพทางกฎหมายของไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ และศึกษาเรื่องการนำหลักเกณฑ์ของแกตต์มาช่วยในการเจรจาต่อรองการค้ามันสำปะหลังกับประชาคมยุโรป ผลการวิจัยพบว่า 1) ตัวข้อตกลงฯ เป็น VER ที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจาก VER ที่เกิดตามมาตรา 19, 6 และ 28 ของแกตต์ นอกจากนี้ยังเป็นข้อตกลงที่ทำขึ้นก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าเป็นภาคีแกตต์ แม้ภายหลังเข้าเป็นภาคีแกตต์แล้วก็ยังคงลักษณะเดิมโดยมิได้มีการนำหลักเกณฑ์ของแกตต์มาใช้ จึงทำให้เกิดปัญหาในการต่อรองเจรจา 2) ข้อตกลงฯ ดังกล่าวมีผลกระทบต่อกฎหมายภายใน กล่าวคือทำให้รัฐบาลไทยต้องออกกฎและระเบียบต่างๆ มาควบคุมและจัดสรรการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำประหลังที่จะส่งไปจำหน่ายยังประชาคมยุโรป 3) ก่อให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจการเมือง ซึ่งส่งผลต่อการเจราจาเนื่องจากการมีข้อตกลง VER ก่อให้เกิด Quota Rentsจากการเป็นผู้ควบคุมการส่งออก 4) ปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาสาระของตัวข้อตกลง เช่น การเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ตามมาตรา 28 พิกัดศุลกากร และนิยามของมันอัดเม็ด เป็นต้น ในฐานะที่ข้อตกลงการค้ามันสำประหลังยังคงมีผลใช้บังคับอยู่และมีแนวฌโน้มว่าจะมีการต่ออายุข้อตกลงต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้น ประเทศไทยควรดำเนินการดังนี้ 1) นำหลักเกณฑ์ตามมาตรา 28 ของแกตต์มาใช้ในการเจรจาแก้ไขและต่ออายุข้อตกลงครั้งต่อไป 2) ควรนำวิธีการประมูลโควต้ามาใช้เพื่อให้การจัดสรรโครต้าเป็นไปอย่างโปร่งใสและเพื่อเป็นการลดปัญหาทางเศรษฐกิจการเมืองของการจัดสรร Quota Rents ลงได้บ้าง 3) จัดให้มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างประเทศขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อขจัดความขัดแย้งของหน่วยงานต่าง ๆ ลง 4) ควรนำวิธีการเจรจาข้ามภาค cross – sectorial exchange) มาช่วยในการเจรจาแก้ไขความเสียเปรียบในมาตรา 3 (i) และ 3 (iii) (a) และเพิ่มบทบัญญัติในการบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง ในข้อตกลงฉบับใหม่ที่อาจมีขึ้น

Share

COinS