Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
การพัฒนาตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานในระดับอุดมศึกษา
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
The development of problem-based learning indicators in higher education
Year (A.D.)
2010
Document Type
Thesis
First Advisor
วรรณี แกมเกตุ
Faculty/College
Faculty of Education (คณะครุศาสตร์)
Degree Name
ครุศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
วิจัยการศึกษา
DOI
10.58837/CHULA.THE.2010.182
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานใน ระดับอุดมศึกษา และ 2) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ในระดับอุดมศึกษาที่พัฒนาขึ้นตามแนวคิดทฤษฏีกับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้สอนที่มี การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานจาก 6 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จำนวน 290 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามการพัฒนาตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานใน ระดับอุดมศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยายและสถิติเชิงอ้างอิง ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์การกระจาย ความเบ้ ความโด่ง และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับที่สองโดยใช้โปรแกรม LISREL ผลการวิจัยที่สำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน พบว่า ตัวบ่งชี้ทุกตัวเป็นตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ ปัญหาเป็นฐานในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จำนวน 29 ตัวครอบคลุม องค์ประกอบ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสถานการณ์ปัญหา ประกอบด้วยตัวบ่งชี้จำนวน 6 ตัว ด้านกระบวนการจัดการ เรียนรู้ ประกอบด้วยตัวบ่งชี้ 6 ตัว ด้านการประเมินผล ประกอบด้วยตัวบ่งชี้จำนวน 6 ตัว ด้านบทบาทของ ผู้สอน ประกอบด้วยตัวบ่งชี้จำนวน 5 ตัว และด้านบทบาทของผู้เรียน ประกอบด้วยตัวบ่งชี้จำนวน 6 ตัว 2. ผลการวิเคราะห์ความสอดคล้องของโมเดลตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานใน ระดับอุดมศึกษา พบว่า มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (2. ผลการวิเคราะห์ความสอดคล้องของโมเดลตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานใน ระดับอุดมศึกษา พบว่า มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (X² = 141.51, df = 151, p = .59, GFI = .97, AGFI = 0.91, RMR = 0.02) ค่าน้ำหนักองค์ประกอบของตัวบ่งชี้ทั้ง 5 ด้าน มีค่าเป็นบวก มีขนาดตั้งแต่ 0.52 ถึง 0.99 โดยองค์ประกอบด้านกระบวนการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบมาก ที่สุด รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านบทบาทของผู้เรียน องค์ประกอบด้านการประเมินผล องค์ประกอบด้าน บทบาทของผู้สอน และองค์ประกอบด้านสถานการณ์ปัญหา มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบเท่ากับ 0.99, 0.95, 0.92, 0.88 และ 0.61 ตามลำดับ และมีความแปรผันร่วมกับองค์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ในระดับอุดมศึกษาโดยรวมได้ร้อยละ 98, 91, 84, 77 และ 38 ตามลำดับ2 = 141.51, df = 151, p = .59, GFI = .97, AGFI = 0.91, RMR = 0.02) ค่าน้ำหนักองค์ประกอบของตัวบ่งชี้ทั้ง 5 ด้าน มีค่าเป็นบวก มีขนาดตั้งแต่ 0.52 ถึง 0.99 โดยองค์ประกอบด้านกระบวนการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบมาก ที่สุด รองลงมาคือ องค์ประกอบด้านบทบาทของผู้เรียน องค์ประกอบด้านการประเมินผล องค์ประกอบด้าน บทบาทของผู้สอน และองค์ประกอบด้านสถานการณ์ปัญหา มีค่าน้ำหนักองค์ประกอบเท่ากับ 0.99, 0.95, 0.92, 0.88 และ 0.61 ตามลำดับ และมีความแปรผันร่วมกับองค์ประกอบการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน ในระดับอุดมศึกษาโดยรวมได้ร้อยละ 98, 91, 84, 77 และ 38 ตามลำดับ
Other Abstract (Other language abstract of ETD)
The purposes on this research were 1) to develop problem-based learning indicators in higher education and 2) to validate model problem based learning indicators in higher education on theoretical concept and empirical data. The participants of this research were 290 teachers University lecturers problem- based instruction in 6 university are Chulalongkron University, Thammasat University, Khonkean University, Chiangmai University, Prince of Songkla University and Walailak University. The research tool were questionnaires, Data were analyzed using descriptive statistics (e.g., means, S.D., C.V., skewness, kurtosis) and Pearson’s correlation by employing SPSS, Analyzed using second order confirmatory factor analysis by LISREL The major results were as follows; 1. The results of confirmatory factor analysis found that all indicators were significantly indicators of problem-based learning in higher education desirable characteristics (p < 0.01). All of 29 indicators were cover 5 aspects: scenario consisting of 6 indicators, problem- based instruction process consisting of 6 indicators, evaluation consisting of 6 indicators, tutor role consisting of 5 indicators and student role consisting of 6 indicators. 2. The results of second order confirmatory factor of the model of problem- based learning indicators in higher education were found that model fitted with empirical data (X² = 141.51, df = 151, p = .59, GFI = 0.97, AGFI = 0.91, RMR = 0.02). Factor loading of 5 aspects were positive, size were from 0.52 to 0.99. The high factor loading were problem- based instruction process, student role, evaluation, tutor role and scenario with have factor loading values were 0.99, 0.95, 0.92, 0.88 and 0.61 respectively. The model accounted were 98%, 91%, 84%, 77% and 38% respectively of variance for the quality factors of problem-based learning indicators in higher education
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
วงศ์จำปา, นุชนารถ, "การพัฒนาตัวบ่งชี้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานในระดับอุดมศึกษา" (2010). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 34777.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/34777