Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

ปัจจัยที่ทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน สายสามัญระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย วิธีเรียนด้วยตนเอง ในเขตกรุงเทพมหานคร

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Factors predicting the student's learning achievement at the upper secondary education level, non-formal education of general education with self instructional type, Bangkok Metropolis

Year (A.D.)

1995

Document Type

Thesis

First Advisor

พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์

Faculty/College

Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)

Degree Name

ครุศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

พื้นฐานการศึกษา

DOI

10.58837/CHULA.THE.1995.278

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และหาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษานอกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายวิธีเรียนด้วยตนเอง ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้วิธีการวิจัยแบบสำรวจ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษานอกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายวิธีเรียนด้วยตนเองในเขตกรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มี 4 ปัจจัย คือ การเตรียมตัวสอบโดยการกวดวิชา (R= 0.174 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.01) การจบการศึกษาสูงสุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนมาเรียนนอกระบบโรงเรียน (R= 0.129 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05) จำนวนปีที่เรียนจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (R= 0.128 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05) และสื่อแบบเรียนที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบโดยการทำข้อสอบเก่า (R= 0.117 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05) ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มี 2 ปัจจัย คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบ (R= -0.0137) และระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านหนังสือทบทวนต่อวัน(R=-0.139) 2. ปัจจัยที่สามารถทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จำนวน 1 ปัจจัย และระดับ 0.05 จำนวน 4 ปัจจัย เรียงตามลำดับได้แก่ การเตรียมตัวสอบโดยการกวดวิชา ระยะเวลาที่ใช้ในการเตรียมตัวสอบ จำนวนปีที่จบการศึกษาปีที่ 3 ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านหนังสือทบทวนต่อวัน และการจบการศึกษาสูงสุดชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจัยทั้ง 5 มีอำนาจในการทำนายร่วมกันได้ประมาณร้อยละ 10

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

The objectives of this research were to study the relationship between various factors and the student’s learning achievement and to study factors predicting the student’s learning achievement at the upper secondary education level, non-formal education of general education with self-instructional type, Bangkok metropolis. The results of the research indicated that: 1. There were four factors showing significant positive relationship with the student’s learning achievement at the upper secondary education level, non-formal education with self-instructional type, Bangkok metropolis as follow: the preparation for the examination by tutoring (R= 0.174 at 0.01 significant level), the highest educational qualification prior the examination at the lower secondary education level (R=0.129 at 0.05 significant level), the number of years after the graduation at the lower secondary education level (R= .0128 at 0.05 significant level), the preparation for the examination by studying former test (R=.0117 at 0.05 significant level). There were two factors showing negative relationship at 0.05 significant level as follow: the preparation time for the examination (R= -0.137), the daily studying time for the examination (R= -0.137) 2. There were five factors which has the potential in preparation for the examination by tutoring (at 0.01 significant level), the preparation time for the examination (at 0.05 significant level), the number of years after the graduation at the lower secondary education level (at 0.05 significant level), the daily studying time for the examination (at 0.05 significant level) and the highest educational qualification prior the examination at the lower secondary education level (at 0.05 significant level). These five factors can jointly predict the student’s learning achievement around 10 percent.

Link to Full Text

Share

COinS