Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
บทบาทของรัฐสภาไทยในการตรากฎหมาย : ศึกษากระบวนการนิติบัญญัติไทยระหว่าง พ.ศ. 2527-2537
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
Tha role of Thai parliament in the making of law : a study of legislative process from 1984-1994
Year (A.D.)
1996
Document Type
Thesis
First Advisor
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
Faculty/College
Graduate School (บัณฑิตวิทยาลัย)
Degree Name
นิติศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level
ปริญญาโท
Degree Discipline
นิติศาสตร์
DOI
10.58837/CHULA.THE.1996.987
Abstract
วิทยานิพนธ์นี้ มุ่งศึกษาถึงบทบาทของรัฐสภาไทยในการตรากฎหมาย โดยได้ศึกษาถึงที่มาของกฎหมาย กระบวนการในการตรากฎหมาย ตั้งแต่การเสนอการพิจารณาการอนุมัติ และผู้ได้รับประโยชน์ของกฎหมายที่ตราขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 2527-2537 ผลการศึกษาพบว่า ตลอดระยะเวลาระหว่าง พ.ศ. 2527-2537 ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยมีสถาบันรัฐสภาทำหน้าที่สำคัญในการตรากฎหมาย สภาพทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงจะมีผลกระทบต่อเนื้อหาและเจตนารมณ์ของกฎหมาย และมีปัจจัยหลายประการที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการนิติบัญญัติในช่วงดังกล่าวนี้คือ สถาบันข้าราชการจะมีบทบาทในระยะแรกมาก ส่วนกลุ่มผลประโยชน์และพรรคการเมืองจะมีอิทธิพลมากในช่วงตั้งแต่ พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา ปัจจัยที่มีอิทธิพลอื่นๆ คือ บทบาทของวุฒิสภาและโครงสร้างของสภา รวมทั้งรัฐต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ในช่วงดังกล่าวนี้ โครงสร้างของอำนาจ ที่ปรากฎอยู่ในรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดให้ฝ่ายบริหารใช้กลไกของอำนาจรัฐเป็นเครื่องมือในการมีอำนาจครอบงำสถาบันรัฐสภา โดยที่ฝ่ายบริหารเป็นผู้แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา มีจำนวนและอำนาจหน้าที่ใกล้เคียงกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปคานอำนาจ และเพื่อเป็นฐานเสียงให้แก่ฝ่ายบริหารในกระบวนการนิติบัญญัติ เพียงแต่เปลี่ยนกลุ่มของฐานผู้ใช้อำนาจจากเดิมที่มีสถาบันรัฐสภาถูกครอบงำโดยระบบราชการจนถึง พ.ศ. 2531 มาเป็นการเข้ามามีอิทธิพลของกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจและชนชั้นกลาง โดยผ่านทางกระบวนการเลือกตั้งและสถาบันพรรคการเมือง เป็นผลให้กฎหมายที่ตราโดยสภาก่อนปี 2531 มีลักษณะที่ให้อำนาจแก่ระบบราชการ ในขณะที่กฎหมายภายหลังทศวรรษ 2530 เป็นต้นมา เน้นหนักไปในด้านการปรับปรุงและพัฒนา และสร้างกฎหมายเกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจการพาณิชย์และอาชีพ เพื่อสนองความต้องการของกลุ่มผลประโยชน์มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สภาได้เริ่มตรากฎหมายที่ให้การคุ้มครองสิทธิของประชาชนมากขึ้น แม้ว่ากฎหมายส่วนใหญ่จะยังคงละเลยการแก้ปัญหาและการคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
สุดสงวน, แนบ, "บทบาทของรัฐสภาไทยในการตรากฎหมาย : ศึกษากระบวนการนิติบัญญัติไทยระหว่าง พ.ศ. 2527-2537" (1996). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 27543.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/27543