Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)

Year (A.D.)

2024

Document Type

Independent Study

First Advisor

ศุภศิษฏ์ ทวีแจ่มทรัพย์

Faculty/College

Faculty of Law (คณะนิติศาสตร์)

Degree Name

ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาโท

Degree Discipline

กฎหมายเศรษฐกิจ

DOI

10.58837/CHULA.IS.2024.154

Abstract

ปัจจุบันสุขภาวะจิตใจเป็นประเด็นสำคัญในแผนสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO) รวมทั้งกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย ก็ได้ให้ความสำคัญกับการดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสุขภาพจิตในที่ทำงาน แน่นอนว่าการมีสมดุลระหว่างสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน ทั้งนี้พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ได้ให้คำจำกัดความที่ครอบคลุมถึงอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และจิตใจจากการทำงาน โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักในการป้องกันเหตุอันตรายจากการทำงาน สถานที่ปฏิบัติงาน และบริบทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากหลักเกณฑ์และกรอบปฏิบัติของกฎหมายในการกำกับดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัยด้านสุขภาพร่างกายแล้ว การระบุรายละเอียดให้ครบถ้วนในการกำกับดูแลสุขภาพจิตใจก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพื่อเป็นการบังคับใช้และนำข้อกำหนดทางกฎหมายไปปฏิบัติให้เกิดความเป็นรูปธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ เอกัตศึกษาฉบับนี้ มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมด้านสุขภาวะทางอารมณ์และจิตใจ สำหรับผู้ปฏิบัติงานบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม ซึ่งการทำงานบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมกลางทะเลนั้น มีลักษณะและบริบทเฉพาะที่ผู้ปฏิบัติงานต้องเผชิญต่างไปจากงานประเภทอื่น คือ การทำงานท่ามกลางความโดดเดี่ยวอ้างว้างกลางทะเล การแยกจากสังคม มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน และการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดความเสี่ยง อันส่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางอารมณ์และจิตใจของผู้ปฏิบัติงาน การกำกับดูแลสุขภาวะจิตใจของพนักงานจึงมีความสำคัญและควรมีแนวทางการส่งเสริมมาตรการที่ชัดเจนโดยระบุรายละเอียดของกฎข้อบังคับให้ครอบคลุมถึงส่วนของการประเมินและดูแลสุขภาพจิตของพนักงาน ทั้งนี้ ผลกระทบจากปัญหาด้านสุขภาวะทางอารมณ์และจิตใจ อาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟ ความเครียดสะสม จิตตก หรือภาวะซึมเศร้า ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงาน ตัวบุคคล และคนรอบข้างได้ ดังนั้น ผู้ศึกษาจึงเสนอให้มีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจประเมินสุขภาวะจิตใจสำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง ลงในแบบสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้าง ที่กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีการบันทึกผลการตรวจสุขภาพทุกครั้งที่มีการตรวจสุขภาพทางการแพทย์ และนายจ้างควรมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเกี่ยวกับการป้องกันดูแล และพื้นฟูสุขภาวะจิตใจของลูกจ้าง รวมทั้งสวัสดิการที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกของการต้องถูกปลีกแยกออกมาขณะต้องปฏิบัติงาน โดยข้อเสนอแนะเหล่านี้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ปัญหาสุขภาพจิตที่ยั่งยืนสำหรับผู้ปฏิบัติงานบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมมากยิ่งขึ้น

Share

COinS
 
 

To view the content in your browser, please download Adobe Reader or, alternately,
you may Download the file to your hard drive.

NOTE: The latest versions of Adobe Reader do not support viewing PDF files within Firefox on Mac OS and if you are using a modern (Intel) Mac, there is no official plugin for viewing PDF files within the browser window.