Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
ปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อพฤติกรรมแสวงหาความช่วยเหลือ ด้านสุขภาพจิต ของมารดาหลังคลอดในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
Year (A.D.)
2023
Document Type
Thesis
First Advisor
Montakarn Chuemchit
Faculty/College
College of Public Health Sciences (วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข)
Degree Name
Master of Public Health
Degree Level
Master's Degree
Degree Discipline
Public Health
DOI
10.58837/CHULA.THE.2023.1335
Abstract
The postpartum period is a critical time for mothers, marked by significant physical and mental changes. During this time, mothers are vulnerable to issues like postpartum blues and depression. Early professional help can reduce the burden of these mental health problems, but barriers such as social stigma, lack of support, and personal reluctance often prevent mothers from seeking help. This study aims to explore the factors correlated with mental health help-seeking among postpartum mothers in Jakarta, using the Theory of Planned Behaviour and considering sociodemographic, social, and environmental factors. Despite the availability of mental healthcare facilities in Jakarta, help-seeking behavior among postpartum mothers is not well understood, highlighting the need for further research. The aim of this study is to examine sociodemographic, childbirth related condition, psychological factors, social factors, perceived environmental factors in their correlation with mental health help seeking intention during the postpartum period in Jakarta, Indonesia. This research is quantitative cross-sectional study of postpartum mothers aged 18-49 years in Jakarta, Indonesia. After passing the ethical review, the data were collected using convenience sampling, with participants completing a self-administered online questionnaire. Quantitative analysis, including descriptive statistics, Spearman's correlation, Mann Whitney U and Kruskal-Wallis were conducted using IBM SPSS 29. The study included 395 postpartum mothers aged 19 to 45 years (Median=26, IQR=6) in Jakarta. Most participants had higher education (71.4%) and a monthly income below the minimum wage (59.5%). The majority were Javanese (44.6%). Regarding childbirth conditions, 49.6% were exclusively breastfeeding, 53.9% were first-time mothers, and 52.9% had a vaginal delivery. Using Spearman’s correlation, parity, attitudes toward behavior, subjective norms, perceived behavioral control, perceived stigma, couple decision-making, and perceived availability show significant correlations with mental health help seeking intention, while age and financial condition do not show a significant correlation. Mann-Whitney U test revealed no significant difference in help seeking intentions between vaginal and caesarean method of delivery, while Kruskal-Wallis test revealed no significant differences in help-seeking intentions based on breastfeeding status, but did show significant differences across ethnic and education groups. While not all sociodemographic characteristics, childbirth-related conditions, but several factors such as education, ethnicity, and breastfeeding status were significantly correlated with mental health help-seeking intentions. All the psychological factors under Theory of Planned Behaviour, social factors, and environmental factor significantly correlated with mental health help-seeking intention. These findings highlight the need for targeted interventions to improve mental health help-seeking among postpartum mothers in Jakarta and may guide policymakers or stakeholders in developing support programs to fulfil their needs of support.
Other Abstract (Other language abstract of ETD)
ช่วงหลังคลอดเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับมารดา เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจอย่างมากในช่วงเวลานี้ มารดามีความเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ อาทิ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ทั้งนี้ การได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆ สามารถลดภาระของปัญหาสุขภาพจิตเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอุปสรรค เช่น การตีตราทางสังคม การขาดการสนับสนุน และความลังเลใจส่วนบุคคล มักทำให้มารดาไม่แสวงหาความช่วยเหลือดังกล่าว ดังนั้น การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการแสวงหาความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในหมู่มารดาหลังคลอดในจาการ์ตา โดยใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน (Theory of Planned Behaviour) และพิจารณาปัจจัยทางสังคมประชากร สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยถึงแม้ว่าจะมีสถานพยาบาลสุขภาพจิตหลายแห่งในจาการ์ตา แต่พฤติกรรมการแสวงหาความช่วยเหลือในหมู่มารดาหลังคลอดยังไม่เป็นที่เข้าใจดีนัก จึงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม การวิจัยครั้งนี้มุ่งสำรวจปัจจัยด้านสังคมประชากร เงื่อนไขการคลอดบุตร ปัจจัยทางจิตวิทยา ปัจจัยทางสังคม และปัจจัยการรับรู้ถึงสภาวะทางสิ่งแวดล้อม ที่สัมพันธ์กับความตั้งใจในการแสวงหาความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในช่วงหลังคลอดในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย การวิจัยนี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวางเชิงปริมาณ ในกลุ่มมารดาหลังคลอดอายุ 18-49 ปี ในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ภายหลังจากได้ผ่านการตรวจสอบด้านจริยธรรมแล้ว ได้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การสุ่มตามความสะดวก (Convenience Sampling) โดยผู้เข้าร่วมกรอกแบบสอบถามออนไลน์ด้วยตนเอง สำหรับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา, การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน (Spearman's Correlation), การทดสอบแมน-วิทนีย์ ยู (Mann Whitney) และการทดสอบครัสกัล-วอลลิส (Kruskal-Wallis) ดำเนินการโดยใช้ IBM SPSS 29 การวิจัยนี้ดำเนินการในกลุ่มมารดาหลังคลอด 395 คน อายุระหว่าง 19 ถึง 45 ปี (ค่ามัธยฐาน = 26, พิสัยระหว่างควอไทล์ = 6) ในจาการ์ตา โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับสูง (71.4%) มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ (59.5%) และส่วนใหญ่เป็นคนชวา (44.6%) สำหรับเงื่อนไขการคลอดบุตร 49.6% ให้นมบุตรอย่างเดียว 53.9% เป็นมารดามือใหม่ และ 52.9% คลอดบุตรโดยธรรมชาติ การใช้การวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของสเปียร์แมน พบว่า ความเท่าเทียมกัน (Parity), ทัศนคติต่อพฤติกรรม (Attitudes towards Behaviour), บรรทัดฐานเชิงอัตวิสัย (Subjective Norms), การรับรู้ถึงการควบคุมพฤติกรรม (Perceived Behavioural Control), การรับรู้ถึงการตีตรา (Perceived Stigma), การตัดสินใจร่วมกันระหว่างคู่รัก (Couple Decision-Making) และการรับรู้ถึงความพร้อมของบริการ (Perceived Availability) มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความตั้งใจในการแสวงหาความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ที่นัยสำคัญต่ออายุและสภาพการเงิน อนึ่ง การทดสอบแมน-วิทนีย์ ยู ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเจตนาในการขอความช่วยเหลือ ระหว่างการคลอดบุตรโดยธรรมชาติและการผ่าคลอด และในขณะเดียวกัน การทดสอบครัสกัล-วอลลิส ก็ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญต่อเจตนาในการขอความช่วยเหลือ เมื่อพิจารณาสถานะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่พบความแตกต่างที่มีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มเชื้อชาติและกลุ่มระดับการศึกษา แม้ว่าจะไม่ได้พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มปัจจัยลักษณะทางสังคมประชากรและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการคลอดบุตรทั้งหมดทุกปัจจัย แต่ก็มีปัจจัยหลากหลายประการ อาทิ การศึกษา เชื้อชาติ และสถานการณ์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ที่พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความตั้งใจที่จะขอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต นอกจากนี้ ยังพบว่า ทุกปัจจัยทางจิตวิทยาตามทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน ปัจจัยทางสังคม และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญต่อความตั้งใจที่จะขอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต โดยผลการวิจัยเหล่านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแทรกแซงที่ตรงเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการแสวงหาความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในหมู่มารดาหลังคลอดในจาการ์ตา และอาจเป็นแนวทางให้ผู้กำหนดนโยบายหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาโครงการสนับสนุนที่มุ่งตอบสนองความต้องการของพวกเขา
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
Fitra, Malika Adila, "Factors correlated with mental health help seeking of mother in postpartum period in Jakarta, Indonesia" (2023). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 12886.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/12886