Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD)
Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)
การศึกษาความน่าเชื่อถือของการวัดขนาดหัวใจด้วยมาตราส่วนกระดูกสันหลังในสุนัขที่มีทรวงอกรูปร่างแตกต่างกัน
Year (A.D.)
2023
Document Type
Thesis
First Advisor
Nan Choisunirachon
Second Advisor
Kittipong Tachampa
Third Advisor
Chutimon Thanaboonnipat
Faculty/College
Faculty of Veterinary Science (คณะสัตวแพทยศาสตร์)
Department (if any)
Department of Veterinary Surgery (ภาควิชาศัลยศาสตร์ (คณะสัตวแพทยศาสตร์))
Degree Name
Master of Science
Degree Level
Master's Degree
Degree Discipline
Veterinary Surgery
DOI
10.58837/CHULA.THE.2023.1069
Abstract
Vertebral heart score (VHS) is a radiographic tool that widely use in veterinary clinical field for evaluating the heart sizeby measure a heart long and short axes and neutralize with vertebral length. However, VHSs among canine breeds are varied from thereference value. Thoracic type is one of the factors that affect to VHS because the shape of canine thoracic type is the structuralvariations that affect heart orientation. Subsequently, it affects to VHS value in thoracic radiographs. Computed tomography (CT) is anadvanced diagnostic tool that provide a multiplane image without superimposition effect. Therefore, CT provide more accurate heartorientation and its evaluation of the heart size. In addition, no prior information that reported about cardiac orientation among dogbreeds that are different thoracic types. The purposes of current study were to use CT image to determine the heart orientation indogs that have different thoracic types and to study the effect of heart orientation on the VHS measurement.Thoracic CT images of dogs that their age was over than 1 year without thoracic abnormalities were retrospectivelyincluded for study. The dogs were classified into 4 groups as broad thorax with normal vertebrae (Normal Broad), broad thorax withabnormal vertebrae (Abnormal Broad), normal thorax (Normal), and deep thorax (Deep). In addition, dogs in each group were classifiedheart deviation as 0, -1, and -2 depend on degree of heart apex deviated from the sternum. Three VHS technique was done on CTimages included conventional VHS (Conventional VHS), adjusted VHS by using CT to evaluate a heart orientation before measure aheart size (Adjusted VHS), and a dorsoventral VHS on thoracic radiographs (Dorsal VHS) and the result were compared among eithertechniques or the thoracic types.The results showed that Conventional VHS was significantly lower than Adjusted VHS and Dorsal VHS in Normal Broadgroup and Abnormal Broad group (P < 0.0001) while no significant difference between Adjusted VHS and Dorsal VHS. The majorparameter that affected VHS was long axis VHS that the Conventional long axis was significantly lower than Adjusted VHS and DorsalVHS (P < 0.0001). Nevertheless, these differences were not found in Normal and Deep groups. Concurrent results were found with theheart deviation (-1 and -2) that was mostly found in Normal Broad and Abnormal Broad group. The results showed that heart deviationgrade 0 was not interfere the VHS among Conventional, Adjusted, and Dorsal VHSs while grade -1 and -2 of heart deviation affect theVHS by significantly lower Conventional long axis VHS compared to those of Adjusted and Dorsal VHSs (P <0.05 and P < 0.001,respectively).Our results demonstrated that the VHSs in Normal and Deep thoracic group were accurate and present an actual heartsize while those of Broad thoracic group including Abnormal and Normal broad groups measuring on lateral view could be less invalues. The VHS in Broad group should be measured in dorsal view instead because it provides the more accurate heart size.
Other Abstract (Other language abstract of ETD)
การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังบนภาพถ่ายรังสีเป็นเครื่องมือที่แพร่หลายในการประเมินขนาดของหัวใจในทางสัตวแพทย์โดยเป็นการนำผลรวมของแกนยาว และแกนสั้นของหัวใจมาเทียบกับกระดูกสันหลัง และรายงานเป็นหน่วยกระดูกสันหลัง แต่อย่างไรก็ตาม การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังนั้นมีความแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละสายพันธุ์ ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลัง ในแต่ละสายพันธุ์คือโครงสร้างของทรวงอกที่แตกต่างกันในสุนัข ซึ่งลักษณะโครงสร้างของทรวงอกนั้นส่งผลต่อการเบี่ยงตัวของแนวแกนหัวใจ ส่งผลต่อค่าการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังบนภาพถ่ายรังสีทรวงอก ภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือวินิจฉัยขั้นสูงที่ให้ภาพที่มีหลายระนาบ โดยปราศจากผลของการซ้อนทับกัน ดังเช่นในภาพถ่ายรังสีดังนั้นภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์จึงสามารถประเมินการเบี่ยงตัวของแนวแกนหัวใจและสามารถประเมินขนาดหัวใจได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลรายงานการเบี่ยงตัวของแนวแกนหัวใจในสุนัขแต่ละทรวงอก ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการใช้ภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ในการประเมินการเบี่ยงของแนวแกนหัวใจในสุนัขแต่ละทรวงอกที่ส่งผลต่อขนาดหัวใจที่วัดด้วยการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังการศึกษาในรูปแบบของการศึกษาย้อนหลังของภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ของสุนัขที่มีอายุมากกว่า 1 ปีโดยปราศจากภาวะโรคทรวงอกที่ส่งผลต่อการมองเห็นหัวใจ สุนัขถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 กลุ่มได้แก่ สุนัขอกกว้างที่กระดูกสันหลังปกติสุนัขอกกว้างที่กระดูกสันหลังผิดปกติสุนัขอกปกติและ สุนัขอกลึก และสุนัขแต่ละตัวจะถูกจัดระดับการเบี่ยงของแนวแกนหัวใจ เป็น 0 -1 และ -2 ขึ้นกับการเบี่ยงของแนวแกนหัวใจจากจากตำแหน่งกระดูกสันอก การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังจะถูกวัดทั้งหมด 3 เทคนิคได้แก่ การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบธรรมดา การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปรับแกนของหัวใจด้วยภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ก่อนทำการวัด และ การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบนอนหงาย จากนั้นทำการเปรียบเทียบค่าการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังทั้ง 3 เทคนิค ในสุนัขแต่ละกลุ่มของทรวงอก ผลการศึกษาพบว่า การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปกติมีค่าที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ แบบปรับแกนด้วยภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์และ แบบนอนหงายในสุนัขกลุ่มอกกว้างที่กระดูกสันหลังปกติและ สุนัขอกกว้างที่กระดูกสันหลังผิดปกติ(P < 0.0001) ขณะที่ไม่พบความแตกต่างระหว่างการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปรับแกนด้วยภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์และ แบบนอนหงาย โดยพบว่าพารามิเตอร์หลักที่ส่งผลต่อค่าการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังคือ ค่าแนวแกนยาวของหัวใจที่จากผลการศึกษาพบว่าค่าแนวแกนยาวของหัวใจในกลุ่มที่วัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปกติมีค่าที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับแบบปรับแกนด้วยภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์และ แบบนอนหงายในสุนัขกลุ่มอกกว้างที่กระดูกสันหลังปกติและ สุนัขอกกว้างที่กระดูกสันหลังผิดปกติ(P < 0.0001) อย่างไรก็ตามสุนัขในกลุ่มอกปกติและ อกลึก ไม่พบความแตกต่างระหว่างการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังทั้ง 3 เทคนิค จากผลการศึกษาพบว่าการเบี่ยงของแนวแกนหัวใจ -1 และ -2 พบได้ส่วนมากในสุนัขกลุ่มอกกว้างที่กระดูกสันหลังปกติและ อกกว้างที่กระดูกสันหลังผิดปกติและ ในสุนัขที่การเบี่ยงเบนของหัวใจในระดับ 0 นั้นไม่พบความแตกต่างของเทคนิค การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังทั้ง 3 เทคนิคในขณะที่สุนัขที่มีการเบี่ยงแนวแกนหัวใจ -1 และ -2 ที่การวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปกติมีค่าที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ แบบปรับแกนด้วยภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์และ แบบนอนหงายในสุนัขกลุ่มอกกว้างที่กระดูกสันหลังปกติและ สุนัขอกกว้างที่กระดูกสันหลังผิดปกติ(P <0.05และ P < 0.001)จากผลการศึกษาชี้ว่าในสุนัขอกปกติและ อกลึกการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปกติบนภาพถ่ายรังสีค่อนข้างแม่นยำและใกล้เคียงกับขนาดที่แท้จริงของหัวใจ ในขณะที่สุนัขกลุ่มอกกว้างทั้ง กระดูกสันหลังปกติและ ผิดปกติการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแบบปกติบนภาพถ่ายรังสีจะมีค่าน้อยกว่าขนาดที่แท้จริงของหัวใจ ดังนั้นการวัดขนาดของหัวใจด้วยระบบมาตราส่วนกระดูกสันหลังแนะนำวัดด้วยท่านอนหงายเพราะจะได้ขนาดที่ใกล้เคียงกับขนาดที่แท้จริงของหัวใจ
Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.
Recommended Citation
Soeratanapant, Suphat, "Reliability of cardiac measurement by vertebral heart score among different thoracic types of dogs" (2023). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 12767.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/12767