ผลของการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจรต่อการควบคุมโรคหืดและการทำงานของระบบหายใจในผู้ป่วยโรคหืด

Other Title (Parallel Title in Other Language of ETD)

Effects of swedish massage prior circuit breathing training on asthma control and respiratory function in patients with asthma

Author

ณัฏฐ์ดนัย เจริญสุขวิมล, คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา

Year (A.D.)

2024

Document Type

Thesis

First Advisor

วรรณพร ทองตะโก

Second Advisor

เจตทะนง แกล้วสงคราม

Third Advisor

Timothy D. Mickleborough

Faculty/College

Faculty of Sports Science (คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา)

Degree Name

วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต

Degree Level

ปริญญาเอก

Degree Discipline

วิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย

DOI

10.58837/CHULA.THE.2024.152

Abstract

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจรที่มีต่อการทำงานของระบบหายใจและการควบคุมโรคในผู้ป่วยโรคหืด กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยที่เป็นโรคหืดที่มาใช้บริการ ณ หน่วยโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย อายุ 18– 65 ปี จำนวน 30 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มควบคุม จำนวน 10 คน ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ โดยไม่ได้รับโปรแกรมการออกกำลังกายใดๆ 2) กลุ่มฝึกหายใจแบบวงจร จำนวน 10 คน ได้รับการฝึกหายใจจำนวน 4 ท่า ท่าละ 3 เซต พักระหว่างท่าๆ ละ 1 นาทีและพักระหว่างเซต ๆ ละ 2 นาที เป็นเวลาประมาณ 30 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ 12 สัปดาห์ และกลุ่มนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจร จำนวน 10 คน ได้รับการนวดแบบสวีดิชในเทคนิค ลูบ คลึง และเคาะ บริเวณกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกาย เป็นเวลา 20 นาที จากนั้นทำการฝึกหายใจในรูปแบบเดียวกับกลุ่มฝึกหายใจแบบวงจร โดยก่อนการทดลอง หลังการทดลอง 6 สัปดาห์ และหลังการทดลอง 12 สัปดาห์ ทำการวัดตัวแปรทางสรีรวิทยา ตัวแปรการทำงานของระบบหายใจ ตัวแปรด้านกล้ามเนื้อ ตัวแปรด้านการควบคุมโรค แล้วนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ทางสถิติ โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบผสม วิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของแอลเอสดี สำหรับตัวแปรสารชีวเคมีในเลือดทำการวัดก่อนและหลังการทดลอง 12 สัปดาห์ แล้วนำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว วิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของแอลเอสดี ที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05ผลการวิจัยพบว่า หลังการทดลอง 12 สัปดาห์ กลุ่มการฝึกหายใจแบบวงจรและกลุ่มการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจร มีค่าเฉลี่ยตัวแปรด้านการทำงานของระบบหายใจ ได้แก่ ค่าปริมาตรสูงสุดของอากาศที่หายใจออกอย่างเร็วและแรงเต็มที่ ค่าอัตราการไหลของอากาศหายใจออกที่สูงที่สุด ค่าปริมาตรของอากาศที่ถูกขับออกในวินาทีแรกของการหายใจออกอย่างเร็วและแรงเต็มที่ ค่าเฉลี่ยของอัตราการไหลของอากาศในช่วงกลางของความจุร้อยละ 25 – 75 % ค่าปริมาตรของอากาศที่เป่าออกอย่างเร็วและแรงในวินาทีที่ 1 ค่าปริมาตรของอากาศจากการหายใจเข้า-ออกเต็มที่ในเวลา 12 วินาที ค่าแรงดันสูงสุดขณะหายใจเข้าค่าแรงดันสูงสุดขณะหายใจออก ค่าขยายตัวของทรวงอก ได้แก่ ส่วนบนที่ระดับใต้รักแร้ ส่วนกลางที่ระดับกระดูกลิ้นปี่ และส่วนล่างที่ระดับกระดูกซี่โครงที่ 10 ค่าตัวแปรด้านการควบคุมโรค ได้แก่ ค่าการประเมินการควบคุมโรคและค่าประเมินคุณภาพชีวิตแบบย่อเพิ่มขึ้นและมีค่าระดับไนตริกออกไซด์ในลมหายใจออกลดลงแตกต่างกับก่อนการทดลองและกลุ่มควบคุมที่นัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 และพบว่ากลุ่มการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจร มีค่าตัวแปรด้านกล้ามเนื้อ ได้แก่ ค่าความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อลำตัวในท่างอลำตัว ท่าเหยียดลำตัว ท่างอศีรษะ ท่าเหยียดศีรษะเพิ่มขึ้นและมีค่าความรู้สึกอาการปวดกล้ามเนื้อทางกายภาพลดลงแตกต่างกับก่อนการทดลองและกลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ไม่พบความแตกต่างของค่าตัวแปรด้านสารชีวเคมีในเลือด ได้แก่ อินเตอร์ลิวคินเทอร์ทีน (IL-13) เมื่อเปรียบในกลุ่มและระหว่างกลุ่มสรุปได้ว่าการฝึกหายใจแบบวงจรเพียงอย่างเดียว และการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจร เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพปอด ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหายใจ การควบคุมโรคและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหืดให้ดีขึ้นได้ โดยการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจรนั้นอาจส่งผลดีมากกว่าการฝึกหายใจแบบวงจรเพียงอย่างเดียว แสดงได้จากค่าตัวแปรด้านการทำงานของระบบหายใจ ตัวแปรด้านความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจ ค่าการขยายตัวของทรวงอกที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตัวแปรค่าด้านสารชีวเคมีในเลือด

Other Abstract (Other language abstract of ETD)

This study aimed to examine the effects of Swedish massage prior to circuit breathing exercises on respiratory function and asthma control in patients with asthma. Thirty asthma patients, aged 18–65 years, from the Allergy and Clinical Immunology Unit, King Chulalongkorn Memorial Hospital, The Thai Red Cross Society, were randomly assigned to one of three groups: 1) Control Group (CON; n = 10): Participants engaged in normal daily activities without any structured exercise program. 2) Circuit Breathing Training Group (CBT; n = 10): Participants performed circuit breathing exercises involving four poses, three sets per session, with 1-minute rests between poses and 2-minute rests between sets. Each session lasted approximately 30 minutes, three days per week, for 12 weeks. 3) Swedish Massage and Circuit Breathing Training Group (SCB; n = 10): Participants underwent 20 minutes of Swedish massage (stroking, kneading, and tapping on upper body muscles) before completing the same circuit breathing training regimen as the CBT group. Physiological, respiratory function, muscular, and asthma control variables were measured at baseline, 6 weeks, and 12 weeks. Data were analyzed using mixed-design ANOVA with post-hoc analysis by the LSD method, with statistical significance set at p < 0.05. Blood biochemical variables were measured at baseline and after 12 weeks and analyzed using one-way ANOVA with post-hoc analysis by the LSD method, with significance set at p < 0.05.The results showed that after 12 weeks, significant improvements were observed in respiratory function variables, including FVC, PEF, FEV1/FVC, FEF 25-75%, FEV1, MVV, MIP, MEP, and chest expansion at the axillary line, xiphoid process, and 10th rib, as well as asthma control variables, such as ACT and Mini-AQLQ scores, in the CBT and SCB groups compared to baseline and the CON group (p < 0.05). Additionally, levels of fraction exhaled nitric oxide (FeNO) significantly decreased in these groups (p < 0.05). The SCB group was significantly increased in muscular variables, including trunk flexion and extension, neck flexion and extension, and pain reduction (as measured by the Visual Analogue Scale, VAS), compared to the CBT and CON groups (p < 0.05). However, no significant differences were found in biochemical blood variables, such as interleukin-13 (IL-13), either between groups or compared to baseline (p > 0.05).In conclusion, circuit breathing training alone and Swedish massage prior to circuit breathing training for 12 weeks improved pulmonary function, respiratory muscle strength, asthma control, and quality of life in patients with asthma. Additionally, Swedish massage prior to circuit breathing exercises may be more effective than circuit breathing exercises alone, as demonstrated by improvements in respiratory function parameters, respiratory muscle flexibility, increased chest expansion, and trends in blood biochemical parameter changes.

Creative Commons License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-No Derivative Works 4.0 International License.

Recommended Citation

เจริญสุขวิมล, ณัฏฐ์ดนัย, "ผลของการนวดแบบสวีดิชก่อนการฝึกหายใจแบบวงจรต่อการควบคุมโรคหืดและการทำงานของระบบหายใจในผู้ป่วยโรคหืด" (2024). Chulalongkorn University Theses and Dissertations (Chula ETD). 12565.
https://digital.car.chula.ac.th/chulaetd/12565